อัปเดต สิทธิประโยชน์เพิ่มใหม่ กองทุนบัตรทอง ปีงบประมาณ 2566

19 ก.พ. 2566 | 07:30 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.พ. 2566 | 07:42 น.

สปสช.อัปเดต สิทธิประโยชน์เพิ่มใหม่ กองทุนบัตรทอง ปีงบประมาณ 2566 เพิ่มอะไรบ้าง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. อัปเดต สิทธิประโยชน์เพิ่มใหม่ กองทุนบัตรทอง ปีงบประมาณ 2566 

1. การดูแลภาวะความดันเลือดในปอดสูงในทารกแรกเกิด (Persistent Pulmonary Hypertension of the Newborn)

- เป้าหมายบริการจำนวน 320 ราย

2. บริการทันตกรรม Vital Pulp Therapy หรือการรักษาเนื้อเยื่อในฟันกรามแท้

- จำนวน 56,300 ราย

3. บริการรากฟันเทียม

- จำนวน 15,200 ราย

4. บริการห้องฉุกเฉิน คุณภาพภาครัฐ

- จำนวน 53,184 ราย

5. ผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับ

- จำนวน 48,554 ราย

6. บริการยาป้องกัน การติดเชื้อเอชไอวี

- จำนวน 27,000 ราย

7. เพิ่มยาจำเป็นแต่มีราคาแพง ในกลุ่มบัญชียา จ (2) จำนวน 14 รายการ

- ดูแลผู้ป่วย 9,634 ราย

8. บริการดูแลผู้ป่วยกึ่งเฉียบพลัน

- จำนวน 30,283 ราย

9. บริการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับพิษ

- จำนวน 7,598 ราย

10. เพิ่มเติมบริการที่คลินิกการพยาบาลฯ กายภาพบำบัด คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรมและคลินิกทันตกรรม

- 2,002,295 ราย รวมถึงบริการ Home Ward
 

อัปเดต สิทธิประโยชน์เพิ่มใหม่ กองทุนบัตรทอง ปีงบประมาณ 2566

เพิ่มเติมบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคปี 2566

1. การตรวจไวรัสตับอักเสบบี (HBe Ag) ในหญิงตั้งครรภ์

2. บริการคัดกรองธาลัสซีเมียในสามีหรือคู่ของหญิงตั้งครรภ์ทุกราย

3. บริการคัดกรองซิฟิลิสในสามีหรือคู่ของหญิงตั้งครรภ์ทุกราย

4. บริการสายด่วนเลิกบุหรี่และสายด่วนสุขภาพจิต

5. บริการคัดกรองปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

6. บริการคัดกรองมะเร็งและมะเร็งช่องปาก

7. บริการคัดกรองผู้ป่วยโรคพันธุกรรมเมตาบอลิกด้วยเครื่องTandem mass spectrometry (TMS) เด็กแรกเกิด

8. บริการคัดกรองและค้นหาวัณโรคในกลุ่มเสี่ยงสูง

9. บริการตรวจยีน BRCA1/BRCA2 ในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงสูงและญาติสายตรงที่มีประวัติครอบครัว ตรวจพบยีนกลายพันธุ์

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

1.สายด่วน สปสช. 1330

2.ช่องทางออนไลน์

• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6

• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand

ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ