กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานการพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้อาจพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากสัปดาห์นี้เกิดฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักในบางพื้นที่ ทำให้มีขังน้ำตามภาชนะต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่ที่ยุงลายชอบวางไข่โดยไข่ของยุงลายจะยึดติดแน่นกับของผิวภาชนะเหนือระดับน้ำเล็กน้อย สามารถอยู่ได้นานเป็นปี เมื่อมีน้ำท่วมถึงสามารถฟักตัวเป็นระยะตัวเต็มวัยในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ และเมื่อมีอุณหภูมิสูงขึ้น ยุงลายตัวเต็มวัยจะออกหากินในช่วงกลางคืนมากขึ้น
ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 9 พฤศจิกายน 2565 มีรายงานผู้ป่วยสะสมทั่วประเทศ 34,257 ราย เสียชีวิต 24 ราย กลุ่มอายุที่พบป่วยมากที่สุด คือ 5-14 ปี รองลงมา 45-54 ปี และผู้สูงอายุ 65 ปี ขึ้นไป
อาการของโรคไข้เลือดออก
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ได้แก่ มีโรคประจำตัว ร้อยละ 58.8 ได้รับยา NSAIDs ร้อยละ 29.4 และน้ำหนักเกิน ร้อยละ 23.5 ตามลำดับ
กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำประชาชนการป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด และไม่ให้ยุงเกิด ด้วยวิธีนอนในมุ้ง อยู่ในห้องติดมุ้งลวด ใส่เสื้อผ้ามิดชิด ทาโลชั่นกันยุง ใช้ยาจุดกันยุง
ปฏิบัติตามหลัก "3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค"
ทั้งนี้ ประชาชนควรสังเกตอาการของตนเองและครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ไข้นานเกินกว่า 2 วัน อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย เบื่ออาหาร หน้าตาแดง อาจมีผื่นขึ้นที่ผิวหนังตามแขน ขา ข้อพับ ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
ไม่ซื้อยากินเอง เนื่องจากยาประเภท NSAIDs หรือ Steroid ทำให้มีอาการรุนแรงและเลือดออกมากขึ้น รักษายากขึ้น ผู้ป่วยมีโอกาสเสี่ยงเสียชีวิตได้ สำหรับร้านขายยาและคลินิก ควรแนะนำให้ผู้ป่วยสงสัยโรคไข้เลือดออกให้ไปรักษาที่โรงพยาบาล สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422