“ฝีดาษลิง กับ โรคอีสุกอีใส” ลักษณะอาการต่างกันอย่างไรอ่านด่วนที่นี่

06 ส.ค. 2565 | 07:28 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ส.ค. 2565 | 14:37 น.
1.4 k

“ฝีดาษลิง กับ โรคอีสุกอีใส” ลักษระอาการต่างกันอย่างไร อ่านรายละเอียดที่นี่มัดรวมไว้แล้วคลิกที่นี่มีคำตอบ

วันที่ 6 สิงหาคม 2565 จากกรณีที่ฝีดาษลิง ในประเทศไทย ปรากฎว่าพบรายที่ 4 ในหญิงไทยเป็นคนแรกแล้วนั้น ขณะที่จำนวนผู้ป่วยฝีดาษลิงยืนยันทั่วโลกอยู่ที่ 27,122 ราย  แต่มีหลายคนยังสังสัยอาการฝีดาษลิง กับ โรคอีกสุกอีใส แตกต่างกันอย่างไร มีข้อสังเกตอย่างไรนั้น

 

ล่าสุด กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ได้นำข้อมูล ณ วันที่ 3 สิงหาคมที่ พญ.ปิ่นนรี ขัตติพัฒนาพงษ์  สถาบันโรคผิวหนัง ได้เปรียบเทียบ อาการฝีดาษลิง กับ โรคอีสุกอีใส  ไว้ดังนี้

โรคฝีดาษลิง หรือ Pox virus

เชื้อก่อโรค และ การติดต่อ

ㆍ การสัมผัสสารคัดหลั่ง รอยโรค และละอองฝอยจากทางเดินหายใจ

ㆍติดต่อจากสัตว์สู่มนุษย์

  • ติดต่อจากมนุษย์สู่มนุษย์

 

ระยะฟักตัว

  • ภายใน 7 - 21 วัน

 

อาการนำ

  • ไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโต

 

อาการแสดงทางผิวหนัง

ㆍแผลในปาก ตามด้วยผื่นแดง ตุ่มแดง ตุ่มน้ำ โดยตุ่มน้ำอาจมีรอยบุ๋มเล็ก ๆ ตรงกลางและกลายเป็นตุ่มหนอง แล้วจึงตกสะเก็ด

  • รอยโรคจะอยู่ในระยะเดียวกัน

 

การรักษา

  • แบบประคับประคองและรักษา ตามอาการ ยาต้านไวรัส tecovirimat ( อยู่ระหว่างการศึกษา )

 

ฝีดาษลิง กับ อีสุกอีใส

 

 

โรคอีสุกใส Varicella zoster virus

 

เชื้อก่อโรค

  • การสัมผัสสารคัดหลั่ง รอยโรค และละอองฝอย จากทางเดินหายใจ

 

การติดต่อ

  • ติดต่อจากมนุษย์สู่มนุษย์

 

ระยะฟักตัว

  • 11 - 20 วัน

 

อาการนำ

  • ไข้ ปวดเมื่อยเนื้อตัว ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ

 

อาการแสดงทางผิวหนัง

  • แผลในปาก และคอหอยตามด้วยผื่นแดงตุ่มแดง ตุ่มน้ำ โดยตุ่มน้ำอาจมีรอยบุ๋มเล็ก ๆตรงกลางและต่อมากลายเป็นตุ่มหนองแล้วจึงตกสะเก็ด
  • พบรอยโรคได้หลายระยะในเวลาเดียวกัน มีโอกาสทิ้งรอยแผลเป็นหลังหาย

 

การรักษา

  • รักษาตามอาการร่วมกับ ยาต้านไวรัส เช่น acyclovir, famciclovir และ valacyclovir.