กรมอนามัยห่วงพฤติกรรมป้องกันโควิด-19 คนไทยลดลง ทั้งการสวมหน้ากาก-ล้างมือ

29 ก.ค. 2565 | 10:05 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ค. 2565 | 17:12 น.

​กรมอนามัย เผยผลสำรวจอนามัยโพลในช่วงเดือนพ.ค.-ก.ค. 65 พบว่า คนไทยมีพฤติกรรมด้านสุขอนามัยลดลง ทั้งการสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ห่วงวันหยุดยาวอาจเสี่ยงแพร่โรคโควิด-19 แนะสถานที่ต่าง ๆ คุมเข้มมาตรการป้องกันโรค

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย  กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โรคโควิด-19  สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ที่อาจส่งผลให้มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นนั้น การป้องกันตนเองด้วยหลัก   UP (Universal Prevention) เพื่อลดความเสี่ยงของโรค ถือเป็นพฤติกรรมสุขภาพที่ประชาชนทุกวัยยังคงต้องปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่อง แต่จากผลการสำรวจอนามัยโพลเกี่ยวกับแนวโน้มพฤติกรรมการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค พบว่า

 

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย

 

ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่พฤษภาคม ถึง กรกฎาคม 2565 ประชาชนมีพฤติกรรม สวมหน้ากากลดลง จากร้อยละ 96.1 ในเดือนพฤษภาคม ลดลงเป็นร้อยละ 94.6 ในเดือนกรกฎาคม    ส่วนการล้างมือ ลดลงจากร้อยละ 91.5 เป็นร้อยละ 88.1 และการเว้นระยะห่าง ลดลงจากร้อยละ 84.6 เป็นร้อยละ 78.6  ภาพรวมพบว่า ผู้ที่ทำได้ครบทั้ง 3 พฤติกรรม มีแนวโน้มลดลงอย่างมาก จากร้อยละ 82 เป็นร้อยละ 74.1 เท่านั้น

“ทั้งนี้ ในช่วงวันหยุดยาวนี้ คาดว่าในหลายสถานที่ เช่น ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สถานีขนส่งสาธารณะ และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จะมีประชาชนไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก ผู้ประกอบการจึงต้องเข้ม มาตรการป้องกันโรค โดยจัดให้มีจุดบริการล้างมือที่เพียงพอ และดูแลให้มีการระบายอากาศที่ดี เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัย

 

ขณะที่ผู้ใช้บริการขอให้สร้างสุขอนามัยที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการสวมหน้ากากเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่นในสถานที่ที่มีความแออัด มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก และไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ รวมทั้งสถานที่ที่มีการระบายอากาศไม่ดี โดยเฉพาะกลุ่ม 608 และผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ควรสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลาเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น เพื่อลดความเสี่ยง และป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ด้วย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว