เร่งพัฒนา "ฟ้าทะลายโจร" สูตรสำหรับเด็ก คาดแล้วเสร็จปลายปีนี้ 

15 ก.ค. 2565 | 18:25 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.ค. 2565 | 04:21 น.

ข่าวดี มูลนิธิอภัยภูเบศร ร่วมกับ คณะเภสัชฯ มอ. เดินหน้าเร่งพัฒนา "ฟ้าทะลายโจร" สูตรดรายไซรัปสำหรับเด็ก คาดแล้วเสร็จปลายปีนี้ ก่อนยื่นขึ้นทะเบียน

15 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าความร่วมมือของมูลนิธิอภัยภูเบศร ร่วมกับคณะเภสัชฯ มอ. ในการพัฒนาศึกษา "ฟ้าทะลายโจร" สูตรดรายไซรัปสำหรับเด็กโดย ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ทางยามาก มีสารสำคัญ "แอนโดรกราโฟไลด์" ในปริมาณสูง สามารถนำมาพัฒนาใช้บรรเทาหรือรักษาอาการ เช่น เจ็บคอ ผิวหนังอักเสบ และอาการคัน เป็นต้น สามารถนำมาใช้ในเด็ก ซึ่งฟ้าทะลายโจรมีงานวิจัยพอสมควรโดยเฉพาะเรื่องหวัดซึ่งเด็กเป็นหวัดกันบ่อย

 

ทางมูลนิธิอภัยภูเบศร จึงร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) พัฒนา "ฟ้าทะลายโจรดรายไซรัป" เพื่อให้เด็กรับประทานได้ง่ายขึ้น ขณะนี้กำลังศึกษาความคงตัว แต่เบื้องต้นประสิทธิภาพดี คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้

ต่อข้อซักถามที่ว่า ต้องศึกษาทางคลินิกเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวว่า จริง ๆ มีงานวิจัยและมีการทดสอบปริมาณการใช้ของสารแอนโดรกราโฟไลด์ในเด็กอยู่แล้วสามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานเพราะใช้ในระดับคลินิกมาก่อน แต่ขณะนี้ต้องรอผลการศึกษาความคงตัว และจะนำเข้าสู่กระบวนการขึ้นทะเบียนเป็นยาพัฒนาจากสมุนไพรซึ่งเป็นไปตาม พระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562

 

"ฟ้าทะลายโจรแบบแคปซูลบรรเทาอาการโควิด หวัด ท้องเสีย แต่ยังศึกษาเรื่องลำไส้แปรปรวน ซึ่งมีศักยภาพอีกมาก โดยแค่สมุนไพรตัวเดียวสามารถแก้โรคภัยไข้เจ็บได้ ยังนำมาพัฒนาเป็นยากันยุง เนื่องจากบางคนอาจไม่ชอบกลิ่นตะไคร้หอม เพราะมีกลิ่นฉุน จึงนำสารสกัดฟ้าทะลายโจรมาสกัดแอลกอฮอล์ และพัฒนาต่อในเรื่องกลิ่น ซึ่งมีการศึกษาเช่นกันว่าป้องกันยุงได้" ภญ.สุภาภรณ์ กล่าว

ด้าน ผศ.ภก.จินดาพร ภูริพัฒนาวงษ์ คณะเภสัชศาสตร์ มอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ฟ้าทะลายโจรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ปกติใช้ลดไข้ แก้เจ็บคอ อาการท้องเสีย ซึ่งจะมีขนาดระบุการรับประทาน ช่วงที่มีโควิดก็สามารถใช้บรรเทาอาการติดเชื้อได้โดยมีปริมาณที่มากขึ้นตามข้อบ่งชี้ แต่การจะให้เด็กรับประทานจะค่อนข้างยากเพราะมีรสขมจึงต้องลดความขมเพื่อให้สามารถรับประทานได้แต่การทำเป็นยาน้ำทำให้สารแอนโดรกราโฟไลด์อาจลดลง

 

อย่างไรก็ดี ทีมศึกษาได้นำฟ้าทะลายโจรมาสกัดให้ได้สารสกัด พบว่า ใบ 1 กิโลกรัมจะได้สารสกัด 100 กรัม ความขมจะเพิ่มเป็น 10 เท่าจึงต้องพัฒนาให้สารสกัดดังกล่าวมีความขมน้อยลงซึ่งต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้ออกมาเป็นผงแห้งไลโปโซมสารสกัดฟ้าทะลายโจร ทำให้ความขมลดลง 70% สารแอนโดกราโฟไลด์ยังอยู่ไม่เกิน 30 มิลลิกรัมต่อวันที่เด็กรับประทาน โดยนำผงยามาทดลองตามสูตรต่างๆ เพื่อให้ออกมาเป็นฟ้าทะลายโจรดรายไซรัปเป็นสิ่งที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้เด็กกินยาได้ง่ายที่สุด