"สมศักดิ์" สวนปมตัวเลขค่ารักษาต่างด้าว 9.2 หมื่นล้าน สภาพัฒน์ เกินจริง
สมศักดิ์ แจงข้อมูลสภาพัฒน์คลาดเคลื่อนตัวเลขค่ารักษาต่างด้าว 9 หมื่นล้านเป็นไปไม่ได้ ยันยอดจริงแค่ 2 พันล้านบาท ยกงบฯ สปสช. จำนวน 1.5 แสนบาทใช้ทั้งประเทศ
จากกรณีที่ สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยข้อมูลการรักษาพยาบาลกลุ่มแรงงานต่างด้าวในประเทศไทย จากรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่และภาพรวมปี 2567 โดยระบุว่า จากศักยภาพการรักษาของประเทศไทยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านชายแดน ทำให้มีคนต่างด้าวเข้ามาใช้บริการรักษามากถึง 3.8 ล้านครั้ง ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยค่ารักษาที่เรียกเก็บไม่ได้จากคนต่างด้าวในพื้นที่ชายแดน พบว่า สูงขึ้นปีงบประมาณ 2567 มีมูลค่าถึง 9.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณพ.ศ.2565 ถึง 8.2 เท่านั้น
ล่าสุดวันนี้ 27 กุมภาพันธ์ 68 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเลขบาทดังกล่าวที่ออกมาน่าจะผิดพลาด พร้อมขยายความว่า แรงงานต่างด้าวตามแนวชายแดนมีอยู่ประมาณ 31 จังหวัดที่เราเรียกเก็บไม่ได้ โดยตัวเลขค่าใช้จ่ายในช่วงปีโควิดปี 2564-2565 เป็นตัวเลขสูง ปี 2566 อยู่ที่ 2,054 ล้านบาท ไม่ใช่เป็นตัวเลขที่ส่งข่าวกันอาจจะมีความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขกำลังระดมสมองว่า จะแก้ไขปัญหาอย่างไร ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปแม่สอด จ.ตาก ตรวจเยี่ยม 5 โรงพยาบาลและรับรายงานตัวเลขประมาณ 154 ล้านบาทซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดปี 2567
เมื่อถามว่าตัวเลข 9.2 หมื่นล้านบาทมาจากส่วนไหนนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หูหนวกตาบอดเป็นไปได้อย่างไร เงินหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีหนึ่งประมาณ 1.5 แสนล้านบาทใช้ทั้งประเทศ ถ้าดูภาพรวมไม่ออกมันก็ไปเรื่อย
ฉะนั้น แรงงานต่างด้าวใช้ 9.2 หมื่นล้านบาทจึงเป็นไปไม่ได้แต่ผิดพลาดตรงไหนไม่ทราบ เข้าใจว่า เขาไม่ได้ส่งตัวเลขรวม การส่งข้อมูลดิบเข้าไปต้องปรับเปลี่ยนใหม่ต้องเป็นข้อมูลที่ปรับปรุงเรียบร้อยแล้วให้ง่ายต่อการดู
อย่างไรก็ตาม วันนี้ได้ให้คณะกรรมการกองทุนประกันสุขภาพคนต่างด้าวและแรงงานต่าวด้าวของกระทรวงฯ ที่ดูแลกองทุนสุขภาพต่างด้าว ประชุมกัน โดยมีนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ตนจะได้ติดตามข้อมูลเพื่อหาแนวทางแก้ไขภาพรวมให้เข้าสู่ระบบให้ได้
เมื่อถามส่งผลกระทบต่อกระทรวงอย่างไรหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวยอมรับว่า ส่งผลกระทบอยู่แล้วจึงหยิบเรื่องนี้มาทำ ในส่วนที่มีการประกันตนที่ผ่านมา ผู้บริหารบอกว่า ไม่ควรต่ำกว่า สิทธิบัตรทองต่อหัว ของคนไทยประมาณ 3.8 พันบาทต่อคนก็เอาตัวเลขเป็นตัวตั้งซึ่งการประกันไม่ควรต่ำกว่านี้ก็ให้กองทุนฯ ประชุมหาทางออกเรื่องนี้