รพ.เด็กสมิติเวชฯ ทุ่ม 2 พันล้าน เปิดตัวสู่ Smart Hospital ดูแลทุกมิติสุขภาพ

นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวว่า โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ เปิดตัวโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อยู่ในบริเวณพื้นที่เดียวกัน ที่แยกเป็นอาคารเด็กโดยเฉพาะจำนวนทั้งหมด 8 ชั้น 111 เตียง ด้วยงบประมาณในการลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อมุ่งสู่การเป็นโรงพยาบาลแห่งอนาคตที่ผู้ปกครองและเด็กไร้กังวล ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ สามารถดูแลสุขภาพของเด็กได้ทุกที่ทุกเวลา 

สำหรับโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช เปิดดำเนินการมา ตั้งแต่เป็นแผนกเด็ก และเริ่มแยกตัวมาเปิดให้บริการช่วงกลางเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา และจะเปิดอย่างเป็นทางการออีกครั้งในวันที่ 5 มีนาคมนี้  ปัจจุบันมี 120 แผนก มีแพทย์เฉพาะทางกว่า 100 คน กลุ่มลูกค้าผู้ใช้บริการอายุตั้งแต่แรกคลอดจนถึง 18 ปี ที่ผ่านมาจะโดดเด่นการผ่าตัดหัวใจ กระดูกสันหลังคด ทารัสซีเมีย ฯลฯ 

ฐานลูกค้าเด็กกว่า 20 % มาจากโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช ขณะที่ภาพรวมกลุ่มลูกค้าแบ่งเป็นคนไทย 65% ต่างชาติ 35% มากจากจีน ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง โดยในปี 2568 ได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตไว้ที่ 8% สำหรับโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล

“เราไม่อยากสร้างโรงพยาบาลที่เป็นแค่โรงพยาบาล แต่ต้องเป็นมิติใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อคนไข้ โดยใช้จุดแข็งของการเป็นโรงพยาบาลเด็กเฉพาะทาง มีแพทย์เฉพาะทาง ดูแลแบบไร้รอยต่อ ยกระดับการดูแลสุขภาพเด็กสู่ระดับนานาชาติ รักษาโรคยากและโรคซับซ้อนในเด็ก โดยทีมกุมารแพทย์และสหสาขาวิชาชีพที่มีประสบการณ์สูงและมีความชำนาญ ผสานความเป็น Smart Hospital โดยเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อผู้รับบริการเป็นหลัก (Customer Centric) แก้ Pain Points  ตอบโจทย์ความต้องการด้วยประสบการณ์ใหม่”

สำหรับดูแลสุขภาพของเด็กได้ทุกที่ทุกเวลา จะใช้ Well Kidz Application ดังนี้

• Self-care: ไม่ป่วยเริ่มต้นที่ตัวเอง ใช้ AI ประเมินสุขภาพ 
• Early Care: ไม่ป่วยป้องกันได้ด้วยโปรแกรมตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนแต่ละช่วงวัย 
• Risk Care: ไม่ป่วยเพราะรู้ทันก่อนเกิดโรคด้วย Risk Score Screening และ Kidz Check ประเมินความรุนแรงของอาการจากที่บ้าน หรือใช้บริการ Kids Telehealth พบแพทย์เฉพาะทางแบบเรียลไทม์ 
• Sick Care: ป่วยยังอุ่นใจได้ด้วยทีมกุมารแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน นวัตกรรมทางการแพทย์ และบริการออนไลน์ 

ทั้งนี้ ยังโดดเด่นด้วย Smart Healthcare Ecosystem ดูแลเชื่อมโยงการรักษาแบบไร้รอยต่อ เข้าถึงสุขภาพดีเริ่มต้นจากที่บ้านตั้งแต่ก่อนมาโรงพยาบาล โดย Well Kidz Application นัดหมายแพทย์เร็วขึ้น 50% ติดตามวัคซีน พัฒนาการ และใช้ VDO Call กับแพทย์ สะดวกทุกที่ และเข้าใจผู้รับบริการยุคใหม่ด้วย Smart OPD ปลอดภัย บริการรวดเร็ว ลดเวลาการอคอย ระหว่างพบแพทย์ พร้อมระบบคัดกรองผู้ป่วยทางเดินหายใจกับผู้รับบริการอื่นๆ มีระบบควบคุมการหมุนเวียนอากาศ, หุ่นยนต์ทำความสะอาด, การใช้ Crowd Canvas แสดงความหนาแน่นของผู้รับบริการ, ใช้ Kids Dashboard แสดงคิวและระยะเวลารอพบแพทย์ ตลอดจน Smart Payment จ่ายเงินง่ายผ่านแอปพลิเคชัน ที่ลดการรอได้ 60%

ยังมี Smart IPD เมื่อต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล ด้วย Fast Admit & Discharge แอดมิทได้รวดเร็ว และลดเวลารอกลับบ้านได้ 76% ใช้ AI Price Estimation ประเมินราคาผ่าตัดแม่นยำกว่า 90% ลดเวลาประเมิน 87% ใช้ Smart Patient Communication จอแสดงข้อมูลของคนไข้ สื่อสารระหว่างผู้ป่วยและทีมดูแลแบบเรียลไทม์, Samitivej PACE แอปพลิเคชันติดตามสถานการณ์ผ่าตัด, Samitivej Prompt ระบบติดตามการรักษาระหว่างพักในโรงพยาบาล แสดงกิจวัตรประจำวัน แผนการรักษา รวมทั้งสั่งอาหาร และเรียกแม่บ้าน, ระบบ IV Alarm ที่เคาน์เตอร์พยาบาล ระบบแจ้งเตือนการให้สารน้ำที่เคาน์เตอร์พยาบาล เพื่อความปลอดภัยและไม่รบกวนผู้ป่วย

นอกจากนี้ ยังเข้าสู่การดูแลต่อเนื่องแบบ 360 องศาเมื่อกลับบ้าน สะดวกสบาย ฟื้นตัวเร็ว ด้วย Kids Telehealthระบบ Telemedicine ปรึกษาคุณหมอเด็กง่ายๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา, Kid@Home ให้บริการดูแลถึงบ้าน เช่น การดูแลหลังคลอด การฉีดวัคซีน การตรวจสุขภาพ เป็นต้น รวมถึงบริการทางการแพทย์ Smart ER ดูแลผู้ป่วยเด็กในภาวะฉุกเฉินและวิกฤติ ตั้งแต่จุดเกิดเหตุด้วยรถฉุกเฉินที่ติดตั้งระบบสื่อสารแบบเรียลไทม์ เชื่อมต่อกับศูนย์สั่งการรับส่งต่อผู้ป่วย (Samitivej Medical Transport Center) ในการส่งข้อมูลผู้ป่วยล่วงหน้าเพื่อให้ทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลเตรียมการรักษาได้ทันที และเปลี่ยนประสบการณ์ความเจ็บปวดด้วย รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส

มีห้องผ่าตัดไฮบริด ที่ใช้ Bi-plane Technology บนเครื่อง X-ray ถ่ายภาพได้หลายระนาบ ลดการสัมผัสรังสี จึงลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงจากการตรวจได้, หุ่นยนต์กายภาพ Robotic ช่วยในการฟื้นฟู, มีกุมารแพทย์ครบทุกสาขามากกว่า 100 ท่าน รักษาโรคยากและซับซ้อนในเด็ก เช่น รักษาโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย โรคมะเร็ง และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องปฐมภูมิ ปลูกถ่ายไขกระดูกด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Hematopoietic Stem Cell Transplantation โดยอัตราการรอดชีวิตหลังรักษา 1 ปี สูงถึง 92%  ดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่า 500 กรัม ผ่าตัดผู้ป่วยเด็กและทารก กว่า 1,000 ราย รวมทั้ง Minimally Invasive Surgery เป็นต้น ตลอดจนร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำต่างๆ ทั้งในต่างประเทศ พร้อมบริการครบวงจรสำหรับผู้ป่วยต่างชาติ

นพ.ชัยรัตน์ กล่าวว่า โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล มุ่งสู่ความเป็นเลิศระดับนานาชาติ ผสานความล้ำสมัยของ Smart Hospital กับความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในความต้องการของผู้รับบริการ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคสูงถึง 98% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และโรงพยาบาลอย่างแท้จริง

"เราขอเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เยาวชนไทยแข็งแรง โตไปไม่ป่วย เพราะสถานการณ์การเจ็บป่วยของเด็กในประเทศไทยน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะจากสภาวะแวดล้อม ฉะนั้นจะต้องดูแลรักษาสุขภาพของเด็กที่เป็นทรัพยากรของประเทศให้มีสุขภาพดีในทุกมิติ"