วันนี้ (7 เมษายน 2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันที่ 8 เม.ย.นี้ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เตรียมรายงานต่อนายกรัฐมนตรี ถึงผลการตรวจสอบกรณีการแก้ไขปัญหาแผ่นดินไหวอาคารก่อสร้างของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่มลงมา เพื่อหาข้อสรุปให้เกิดบรรทัดฐานในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างรัดกุมและนำเสนอ ครม. ต่อไป
ทั้งนี้ในการประชุม ครม. ครั้งก่อน นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการในที่ประชุม ครม. มอบมาย 8 กระทรวง ดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์แผ่นดินไหว โดยให้กระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการจัดทำแผนและมาตรการภัยพิบัติต่าง ๆ โดยให้มีการแบ่งหน้าที่และกำหนดขั้นตอนการทำงานอย่างชัดเจน
กระทรวงการต่างประเทศ เร่งศึกษากับผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ ที่มีความพร้อมและอยู่ในแนวแผ่นดินไหว อาทิ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศนิวซีแลนด์ หรือบางประเทศในสหภาพยุโรป รวมทั้งประเทศอิสราเอล
กระทรวงสาธารณสุข เตรียมแผนรับมือ ทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติ อุบัติเหตุใหญ่ๆ และอุบัติภัยสำคัญ ว่าควรจะดำเนินการในรูปแบบไหนอย่างไร ทั้งระบบโรงพยาบาลสนาม การปฏิบัติตัว การรองรับ และการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่นๆอย่างไร
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เร่งสื่อสารกับนักท่องเที่ยวว่า การท่องเที่ยวในประเทศไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่อื่นๆ ในประเทศไทยได้ปกติ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ระดมนักวิชาการธรณีวิทยาเพื่อรวบรวมข้อมูลในการจัดทำข้อเสนอแนะและมาตรการที่ถูกต้อง ปลอดภัย พร้อมตรวจสอบอุปกรณ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันว่าใช้การได้มากน้อยเพียงใด เช่น ชายฝั่งอันดามัน ที่เคยเกิดเหตุสึนามิ ที่เคยมีการวางทุ่นในทะเล ให้สำรวจว่ายังใช้การได้อยู่หรือไม่ และให้นำกลับมารายงานที่ประชุมอีกครั้ง
กระทรวงศึกษาธิการ นายกฯ ยังได้สั่งการให้รมว.ศึกษาธิการ บรรจุเรื่องการปฏิบัติตนในขณะแผ่นดินไหว และการเกิดอุบัติภัยต่างๆ เข้าไปในแบบการเรียนการศึกษาของเด็กและเยาวชนเนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ และไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะเช่นนี้มาก่อน
กระทรวงคมนาคม ให้ตรวจสอบการเดินทางทุกมิติ ทั้งทางน้ำ ทางบก ทางเรือ และทางอากาศว่า โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่มีพี่น้องประชาชนใช้บริการสามารถใช้บริการได้หรือไม่ มีความแข็งแรงและสามารถรองรับภัยธรรมชาติได้มากน้อยเพียงใด
สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ร่วมมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สรุปมาตรการเยียวยาของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต และให้ประชาสัมพันธ์เป็นศูนย์กลางในการกระจายข่าวสารอย่างถูกต้องและทั่วถึง
นายจิรายุ กล่าวว่า ในข้อสั่งการทั้งหมดนั้น หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ จะมีการรายงานความคืบหน้าต่าง ๆ และผลของการดำเนินคดีในที่ประชุมครม.วันที่ 8 เม.ย.นี้ ต่อไป