ย้อนรอยมหากาพย์ 28 ปีปิดฉากพ่อมดการเงิน "ราเกซ สักเสนา" ต้องชดใช้กว่า 2 พันล.

13 ก.ย. 2565 | 12:16 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.ย. 2565 | 19:16 น.
1.4 k

ย้อนรอยมหากาพย์ 28 ปีปิดฉากพ่อมดการเงิน "ราเกซ สักเสนา" ต้องชดใช้กว่า 2 พันล้านบาท หลังศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

มหากาพย์ 28 ปี ปิดฉากพ่อมดการเงิน ราเกซ สักเสนา ทุจริตธนาคารบีบีซี จำคุก 335 ปี ปรับ 33 ล้านบาท ชดใช้เงินคืนกว่า 2000 ล้านบาท

 

เมื่อวานนี้ (12กย2565) ศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชยการ หรือบีบีซี

 

ในข้อหาทุจริตในการปล่อยกู้ ทำให้ธนาคารเสียหายนับ 1000 ล้านบาทและมีผลไปจนถึงธนาคารล้มละลาย

 

เป็นอันยุติคดีความ ที่ยาวนานเกือบ 30 ปี โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

  • นายราเกซ สักเสนา ซึ่งปัจจุบันมีอายุมากถึง 70 ปี เป็นคนสัญชาติอินเดีย จบการศึกษาในระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ได้เข้ามาทำงานในประเทศไทย เป็นที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการจำกัด(มหาชน) ได้ร่วมกับพวก ทำการทุจริตอนุมัติสินเชื่อเกินบัญชี โดยไม่ผ่านการพิจารณากลั่นกรองจากคณะกรรมการที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง
     
  • อัยการได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องว่า นายราเกซ สักเสนา ซึ่งมีความเก่งกาจ จนได้รับฉายาว่า “พ่อมดการเงิน” โดยกล่าวหาว่า กระทำผิดในช่วงปี 2537-2539

 

  • นายราเกซ สักเสนา ถูกออกหมายจับในปี 2539  หลังจากการล้มละลายของบีบีซีในปี 2538 มีผู้เสียหายเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก

 

  • นายราเกซได้หลบหนีออกจากประเทศไทย  ไปยังแคนาดาและถูกตำรวจแคนาดาควบคุมตัวไว้ได้เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2539

 

  • ทางการไทยได้ประสานขอตัวนายราเกซกลับมา ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน แต่นายราเกรซได้ใช้กลเม็ดเด็ดพรายทางกฎหมายหลายอย่าง ให้ทนายยื่นคำคัดค้าน อ้างว่าถ้าแคนาดาส่งกลับไทย ตนเองอาจถูกสังหารหรือจำคุกแบบโหดร้ายทารุณ

 

  • กว่า 12 ปี ศาลฎีกาแคนาดาจึงได้ยกคำร้องของนายราเกซ และส่งตัวกลับเมืองไทย ในเดือนพฤศจิกายน 2551

 

  • ในปี 2555 ศาลอาญากรุงเทพใต้ซึ่งถือว่าเป็นศาลชั้นต้น ได้พิพากษาจำคุกและสั่งปรับ ตลอดจนให้ชดใช้เงินคืน
  • นายราเกซได้ทำการอุทธรณ์ และตามด้วยฎีกา ตามสิทธิ์ของผู้ต้องหา

 

  • 12 กันยายน 2565 ศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ว่า

 

นายราเกซ สักเสนา มีความผิดจริง ให้จำคุกทุกข้อหารวมทั้งสิ้น 335 ปี(แต่จะได้รับโทษจำคุกจริง 20 ปี) ปรับ 33 ล้านบาท และให้ชดใช้เงินกว่า 2000 ล้านบาท (ซึ่งได้ชดใช้ไปแล้วบางส่วน เหลือต้องชดใช้เพิ่มอีก 353 ล้านบาท)

 

เป็นอันจบสิ้นคดีมหากาพย์อีกคดีหนึ่ง ที่ยืดเยื้อยาวนานถึง 28 ปี และจำเลยหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ 12 ปี ในระหว่างต่อสู้คดีในประเทศไทย 10 ปี ก็อยู่ในคุกมาโดยตลอด จึงยังเหลือโทษจำคุกอีก 10 ปี

 

สำหรับผู้สูงอายุวัย 70 ปี การต้องรับโทษจำคุกต่อเนื่อง คงจะเป็นเรื่องที่ลำบากมากทีเดียว