เตือน 3 จังหวัดรวมกทม. ระวังน้ำทะเลหนุนสูงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา 24 – 29 ส.ค.

23 ส.ค. 2565 | 10:47 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ส.ค. 2565 | 17:58 น.
574

ปภ.แจ้งนนทบุรี สมุทรปราการ และ กทม.เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงวันที่ 24 – 29 ส.ค. 65 อาจส่งผลกระทบต่อบริเวณพื้นที่ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว รวมถึงบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร

เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 65 เวลา 21.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้รับแจ้งจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ คาดการณ์สถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาว่า สภาวะระดับน้ำในแมน้ำเจ้าพระยา บริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า จังหวัดสมุทรปราการและพื้นที่ใกล้เคียง ในช่วงวันที่ 24 - 29 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 17.00 - 20.30 น. เป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง

 

ประกอบกับมีฝนตกบริเวณพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนบนและลุ่มเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก จะทำให้มีน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ 1,500 - 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเขื่อนพระรามหกจะมีน้ำหลผ่านเกณฑ์ 400 - 500 ลุูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างเพิ่มสูงขึ้น

โดยในช่วงวันที่ 24 - 29 สิงหาคม 2565 คาดการณ์ระดับน้ำสูงประมาณ 1.90 - 2.20 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง อาจส่งผลกระทบต่อบริเวณพื้นที่ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว รวมถึงบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร

 

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) จึงได้ประสานจังหวัดนนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ริมน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำตามริมแม่น้ำ ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ อาทิ

การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งทรุด แพร้านอาหาร ท่าเทียบเรือ เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงแจ้งจังหวัดประสานท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันริมแม่น้ำ และเสริมคันบริเวณจุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมน้ำ ตลอดจนจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง