สภาพอากาศวันนี้ -17 ก.ค. ทั่วไทยมีฝนเพิ่ม ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก-หนักมาก

12 ก.ค. 2565 | 01:06 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.ค. 2565 | 03:28 น.
3.1 k

สภาพอากาศวันนี้ -17 ก.ค.65 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนเพิ่ม ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก-หนักมาก และฝนตกสะสมอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 11 กรกฏาคม 2565 - 17 กรกฏาคม 2565 คาดหมายลักษณะอากาศในช่วงวันที่ 11 – 14 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้

 

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร บริเวณทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร ในช่วงวันที่ 15 – 17 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง 

 

ในขณะที่ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านบริเวณประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก 

 

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร บริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 11 – 14 ก.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดอกจากฝั่งจนถึงวันที่ 14 ก.ค. 65

 

ภาคเหนือ  

ในช่วงวันที่ 11 - 14 ก.ค. 65

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 15 – 17 ก.ค. 65

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. 
  • อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 29-36 องศาเซลเซียส

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    

ในช่วงวันที่ 11 - 14 ก.ค. 65

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 15 – 17 ก.ค. 65

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. 
  • อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 29-37 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง    

ในช่วงวันที่ 11 - 14 ก.ค. 65

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 15 – 17 ก.ค. 65

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. 
  • อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส

 

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 11 – 14 ก.ค. 65

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
  • บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

ในช่วงวันที่ 15 – 17 ก.ค. 65

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
  • บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
  • อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง

ช่วงวันที่ 11 – 14 ก.ค. 65

  • มีฝนตกหนักบางแห่ง

ช่วงวันที่ 11 – 14 ก.ค. 65

  • ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร
  • ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ช่วงวันที่ 15 – 17 ก.ค. 65 

  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
  • อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  

ช่วงวันที่ 11 – 14 ก.ค. 65

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
  • ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร
  • ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ช่วงวันที่ 15 – 17 ก.ค. 65

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
  • ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
  • ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
  • อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล    

ช่วงวันที่ 11 - 14 ก.ค. 65

  • ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ช่วงวันที่ 15 – 17 ก.ค. 65

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. 
  • อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 31-37 องศาเซลเซียส