วิกฤติ! ฝีดาษลิงเตรียมยกระดับเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินของโลก เพราะอะไร เช็คเลย

08 ก.ค. 2565 | 07:40 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.ค. 2565 | 14:40 น.
2.0 k

วิกฤติ! ฝีดาษลิงเตรียมยกระดับเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินของโลก เพราะอะไร เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หมอเฉลิมชัยเผยยองค์การอนามัยโลกนัดประชุมฉุกเฉินแล้ว

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

ฝีดาษลิงระบาดแล้ว 58 ประเทศ กว่า 6000 ราย อาจประกาศเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินของโลกทางสาธารณสุข โดยองค์การอนามัยโลกนัดประชุมฉุกเฉินแล้ว

 

หลังจากที่มีการระบาดของฝีดาษลิงนอกทวีปแอฟริกา ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา

 

จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาสองเดือนนั้น พบเคสสะสมรวมมากกว่า 6000 ราย ใน 58 ประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้ 80% พบในทวีปยุโรป

 

จึงเป็นปัญหาโรคติดต่อที่องค์การอนามัยโลกต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

 

เนื่องจากฝีดาษลิง เดิมเป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) เฉพาะในทวีปแอฟริกา และมีมาหลายสิบปีแล้ว

 

เพียงแต่ในปีนี้ มีการระบาดออกมานอกทวีปแอฟริกา และติดกันเองภายในทวีปยุโรปหลากหลายประเทศ

โดยจำนวนผู้ติดโรคส่วนใหญ่ ไม่ได้เดินทางไปแอฟริกา หรือสัมผัสคนที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกาแต่อย่างใด

 

นอกจากนั้นยังมีปัญหาเกี่ยวกับการเกิดผื่นที่สังเกตได้ยากมากขึ้น จากเดิมที่เกิดนอกร่มผ้า เช่น ใบหน้า แขนขา

 

พบว่าในการระบาดครั้งนี้ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดผื่นในร่มผ้า บริเวณอวัยวะเพศและรอบทวารหนัก จึงไปมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับกลุ่มชายมีความสัมพันธ์กับเพศชายด้วยกัน (MSM) อย่างชัดเจน

 

คาดว่าหลังการประชุมขององค์การอนามัยโลก ที่เรียกฉุกเฉินในครั้งนี้ น่าจะมีการประกาศให้ "ฝีดาษลิง" เป็นสถานการณ์สาธารณสุขฉุกเฉินของโลก (Global Health Emergency) ซึ่งจากการประชุมครั้งที่แล้วยังชะลอการมีมติดังกล่าวไว้ก่อน

 

"ฝีดาษลิง" เตรียมยกระดับเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินของโลก

 

คงเป็นเรื่องที่จะต้องติดตามฝีดาษลิงอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยองค์การอนามัยโลกได้แนะนำให้แต่ละประเทศเฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิดโดยการ

 

  • เพิ่มจำนวนการตรวจหาเชื้อไวรัสให้มากขึ้น
  • สำรองวัคซีนป้องกันฝีดาษลิงให้เพียงพอ
  • สำรองยาที่จะรักษาโรค

เพื่อที่จะได้สามารถควบคุมการระบาดของฝีดาษลิงในแต่ละประเทศให้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การควบคุมฝีดาษลิงในระดับโลกดีขึ้นด้วยเช่นกัน

 

ในโลกยุคปัจจุบันที่เรียกว่าโลกาภิวัตน์ ประเทศส่วนใหญ่เป็นประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิ เสรีภาพเพิ่มมากขึ้น เศรษฐกิจเป็นตลาดเสรีกึ่งทุนนิยม

 

ทำให้เกิดการรบกวนระบบนิเวศโดยเฉพาะป่าต่างๆที่มนุษย์ไม่เคยเข้าไป

 

ทำให้เกิดโรคอุบัติใหม่ จากไวรัสหลากหลายชนิด ที่มีอยู่ในป่าลึก มีอยู่ในสัตว์ป่า และไม่เคยระบาดในคนมาก่อน ก็ขยับเข้ามาระบาดในคน

 

จำเป็นที่มนุษยชาติจะต้องเข้าใจร่วมกันว่า เราจะต้องอยู่ร่วมกับธรรมชาติ โดยให้ความเคารพ มีความเข้าใจ ไม่ไปรุกล้ำ

 

เพราะสุดท้ายโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยเฉพาะไวรัสที่อยู่ในป่าและสัตว์ป่านั้น ก็เข้ามาสู่มนุษย์

 

ซึ่งแก้ไขปัญหาได้ยากลำบาก และมีผลกระทบผลเสียหายรุนแรง ดังเช่น โควิด-19 และฝีดาษลิง เป็นต้น