ไทยเพิ่ม โรคฝีดาษลิง เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังลำดับที่ 56 จริงหรือ?

ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวสารในสังคมออนไลน์เรื่องไทยเพิ่มโรคฝีดาษลิง เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังลำดับที่ 56 ทาง ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบร่างประกาศยกเลิกท้องที่นอกราชอาณาจักรเป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย "โควิด 19" หลังแนวโน้มลดลงทั่วโลก และมีการฉีดวัคชีนจำนวนมากจึงได้มีการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศและร่างประกาศเพิ่ม"ฝืดาษลิง" เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ลำดับที่ 56 และรับทราบมาตรการควบคุมป้องกันโรคในสถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด

นอกจากนี้ ร่างประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข เรื่องโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง โดยเพิ่มชื่อโรคฝืฝีดาษลิง (Monkeypox) เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังลำดับที่ 56 ตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ตามความเห็นชอบของคณะกรรมการด้านวิชาการที่ประชุมหารือเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ โรคฝีดาษวานรยังแพร่ระบาดในต่างประเทศ โดยประเทศไทยมีการเฝ้าระวัง ซึ่งยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในประเทศไทย โดยกรมควบคุมโรคได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (EOC) กรณีโรคฝืดาษวานร และเตรียมความพร้อมเสริมมาตรการคุมเข้ม ทั้งที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศที่สนามบินนานาชาติ และสั่งการโรงพยาบาลในสังกัดรัฐและเอกชน ให้เตรียมพร้อมเฝ้าระวัง สังเกตอาการกลุ่มเสี่ยง และส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อฝืดาษลิง

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/ หรือโทร 02-590-3000

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

ในขณะที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขของไทย รายงานสถานการณ์โรคฝีดาษลิงทั่วโลก ข้อมูล ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2565 มีรายงานใน 33 ประเทศ ผู้ป่วยยืนยันทั้งหมด 1,240 คน กว่า 99% เป็นเพศชาย

5 ประเทศสูงสุดที่พบผู้ป่วยยืนยันมี ดังนี้

• อังกฤษ       305     คน
• สเปน           225    คน
• โปรตุเกส     191     คน
• เยอรมนี       113     คน 
• แคนาดา      102     คน

ลักษณะอาการที่พบ ส่วนใหญ่ 78% มีผื่น แผลเปื่อย ถัดมา คือ ผื่นที่บริเวณอวัยวะเพศร้อยละ 57% และ 18% เป็นผื่นที่บริเวณปาก และมีตุ่มใส 8 % นอกจากนี้อาการอื่น ๆ ที่พบ คือ กว่า 27 % เป็นไข้ และปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ มีต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต อ่อนเพลีย ไอ กลืนลำบากเล็กน้อย หนาวสั่น เป็นต้น 

สำหรับประเทศไทยมีการเฝ้าระวัง "ฝีดาษลิง" ในไทย มีระบบคัดกรองผู้เดินทางจากต่างประเทศ เตรียมพร้อมการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การสอบสวน ควบคุมและป้องกันโรค และจัดหาวัคซีนหากจำเป็นต้องใช้