ผงะ! ฝีดาษลิงอาจติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ หลังอิตาลีพบเชื้อในน้ำอสุจิ

15 มิ.ย. 2565 | 04:11 น.
3.8 k

ผงะ! ฝีดาษลิงอาจติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ หลังอิตาลีพบเชื้อในน้ำอสุจิ ขณะที่เยอรมันตรวจพบสารพันธุกรรม DNA ของไวรัสในน้ำอสุจิของผู้ป่วย 2 ราย

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

ข้อมูลล่าสุด อิตาลีพบไวรัสฝีดาษลิงในน้ำอสุจิ ต้องติดตามกันต่อไปว่า จะกลายเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่

 

หลังจากที่โลกเราประสบกับการระบาดของฝีดาษลิงรอบใหม่มาได้นาน 2 เดือน โดยพบผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 1500 ราย ในกว่า 30 ประเทศทั่วโลกนั้น

 

มีข้อมูลที่น่าสนใจในเบื้องต้นคือ

 

  • เดิมพบผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ในทวีปแอฟริกา หรือผู้ที่เคยเดินทางไปแอฟริกา แต่ในปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่เคยเดินทางไปทวีปแอฟริกามาก่อน

 

  • ลักษณะของผื่น เดิมขึ้นที่หน้าแล้วลามมายังลำตัว แขนขา แต่ในปัจจุบัน ผื่นเกิดขึ้นที่บริเวณอวัยวะเพศและรอบทวารหนักก่อน

 

  • ผู้ติดเชื้อ เดิมพบในเพศชายและหญิงจำนวนที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ในปัจจุบันพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงถึง 90% และที่สำคัญพบในกลุ่มชายรักชายหรือชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM : Men who have sex with men) เป็นจำนวนมากขึ้น

จึงทำให้เกิดคำถามว่า โรคฝีดาษลิง ซึ่งเดิมเป็นโรคติดต่อผ่านทางการสัมผัสตุ่มน้ำที่ผิวหนังโดยตรง ซึ่งในช่วงแรกคิดว่าอาจจะเกิดจากการสัมผัสในขณะมีเพศสัมพันธ์ก็ได้นั้น

 

และยังไม่ได้มีการสรุปว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทำนองเดียวกับโรคเอดส์ ซิฟิลิส หรือหนองใน

 

แต่ล่าสุด ได้มีข้อมูลทยอยออกมาเป็นลำดับว่า ฝีดาษลิงอาจติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

 

ซึ่งทั้ง 4 ราย เป็นผู้ชายวัย 30 ปี และอยู่ในกลุ่ม MSM เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ทำให้พบสารพันธุกรรมของไวรัสในนำ้อสุจิรวมเป็น 6 ราย

 

ที่สำคัญมากคือ หนึ่งในหกรายดังกล่าวนั้น ได้พบไวรัสที่สามารถเพิ่มจำนวนได้ในห้องปฏิบัติการด้วย

 

ฝีดาษลิงอาจติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์

 

อันอาจจะหมายถึง ความสามารถของไวรัสในน้ำอสุจิ ทำให้เกิดการติดเชื้อฝีดาษลิงในผู้อื่นได้ด้วย

 

แต่หลักฐานดังกล่าว ยังไม่เพียงพอที่จะสรุปว่าไวรัสก่อโรคฝีดาษลิงมีการกลายพันธุ์ไปจากไวรัสเดิม
 

แต่พอจะสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ฝีดาษลิงนอกจากติดต่อกันทางสัมผัสตุ่มน้ำโดยตรง หรือสัมผัสละอองขนาดใหญ่ (Droplets)จากสารคัดหลั่ง เช่นน้ำมูก น้ำลายแล้ว อาจติดต่อกันผ่านทางเพศสัมพันธ์ หรือน้ำอสุจิได้ด้วย

 

ในเยอรมันเอง ก็มีรายงานตรวจพบสารพันธุกรรม DNA ของไวรัสในน้ำอสุจิของผู้ป่วย 2 รายเช่นกัน ซึ่งก็ยังไม่ได้สรุปว่าพบไวรัสที่มีชีวิตและทำให้สามารถติดเชื้อได้

 

ส่วนในอังกฤษและสหรัฐอเมริกา กำลังเร่งศึกษาเรื่องดังกล่าว เพื่อหาข้อสรุปต่อไป

 

สรุปว่า

 

  • ถึงปัจจุบันนี้ มีการระบาดของฝีดาษลิงรอบใหม่มา 2 เดือน ในกว่า 30 ประเทศ จำนวน 1500 ราย
  • มีข้อมูลเพิ่มมากขึ้นว่า นอกจากการติดต่อโดยสัมผัสไวรัสที่ตุ่มน้ำโดยตรงแล้ว อาจติดต่อผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ เพราะมีการตรวจพบไวรัสที่เพิ่มจำนวนได้ในน้ำอสุจิ