เริ่มแล้ววันนี้ ปิด "อุทยานแห่งชาติภูกระดึง" 2565 ห้ามนักท่องเที่ยวพักแรม

01 มิ.ย. 2565 | 04:43 น.
685

"อุทยานแห่งชาติภูกระดึง" ประกาศปิดประจำปี วันนี้ 1 มิถุนายน 2565 เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติช่วงหน้าฝน และประกาศห้ามนักท่องเที่ยวพักแรมในพื้นที่ เช็คข้อมูลล่าสุด ปิดเมื่อไหร่ ถึงเมื่อไหร่ เปิดอีกที่ตอนไหน ไปเที่ยวต้องจ่ายค่าเข้าหรือไม่ และการเดินทางไปยังไง รวบไว้ครบที่นี่

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้ชื่นชอบธรรมชาติ ป่า เขา และการเดินป่า โดยได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของประเทศไทย ล่าสุดอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ได้มีการประกาศจะเริ่มปิดการให้บริการด้านการท่องเที่ยวและพักแรมบริเวณด้านบนของภูกระดึง 

 

ทั้งนี้ในการประกาศปิดครั้งนี้ เพื่อเป็นการให้ธรรมชาติบนขุนเขาได้กลับมาฟื้นฟูในช่วงฤดูฝน และเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยมีรายละเอียด ดังนี้

 

การปิดประจำปี 

  • ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายน 2565 

 

การเปิดบริการให้ขึ้นไปท่องเที่ยวและพักแรม 

  • ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565

 

สำหรับท่องเที่ยวที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวศรีฐาน (เชิงเขา) ยังเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวตามปกติ

 

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ประกาศปิดประจำปี

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตั้งอยู่ที่ไหน จังหวัดอะไร

 

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ครอบคลุมพื้นที่ 348.13 ตารางกิโลเมตร (217,576.25 ไร่) ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด โดยมีที่ราบบนยอดภูกระดึงประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร (37,500 ไร่)

 

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง สูงแค่ไหน อุณหภูมิ เท่าไหร่

 

ภูกระดึงมีระดับความสูงอยู่ระหว่าง 400 – 1,200 เมตร จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตร สภาพทั่วไปของภูกระดึงประกอบไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด พันธุ์สัตว์ป่านานาพันธุ์ หน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพองซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

ด้วยความสูง บรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปีบนยอดภูกระดึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิอาจลดต่ำจนถึง 0 องศาเซลเซียส จึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวปรารถนาที่หวังจะเป็นผู้พิชิตยอดภูกระดึงสักครั้งหนึ่งในชีวิต

 

อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ

  • ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

 

สัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่

  1. บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ : AIS, TRUE , DTAC
  2. บริเวณอุทยานแห่งชาติภูกระดึงบริเวณยอดเขา : AIS, TRUE

 

แผนที่ภูกระดึง

 

แผนที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง

การเดินทาง

 

รถยนต์ เดินทางโดยรถยนต์ สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง ดังนี้

  1. เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้าย ภูเรือ และอำเภอเมืองเลย เลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 (เลย-ขอนแก่น) และเลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
  2. ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี นครราชสีมา จนถึงจังหวัดขอนแก่นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูผาม่าน และตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
  3. เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 201 ผ่านจังหวัดชัยภูมิ อำเภอภูเขียว แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ จากนั้นเดินทางเช่นเดียวกับเส้นทางที่ 2

 

เครื่องบิน

 

เดินทางโดยเครื่องบิน โดยใช้เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-ขอนแก่น กรุงเทพฯ-เลย กรุงเทพฯ-อุดรธานี ของสายการบินต่างๆ ได้ทุกวัน สอบถามข้อมูลเที่ยวบินและสายการบิน โทร. 0-2628-2000, 0-2515-9999, 0-2267-2999 และ 1318

 

รถไฟ

 

เดินทางโดยรถไฟ ขึ้นรถไฟที่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงถึงสถานีรถไฟขอนแก่น ต่อรถโดยสารสายขอนแก่น-เลย ถึงอำเภอภูกระดึงแล้วต่อรถสองแถวเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง สอบถามข้อมูลรถไฟ โทร. 0-2225-1300 ต่อ 5201 ,0-2223-0341-3 หรือติดต่อสอบถามโดยตรงที่อุทยานแห่งชาติกระดึง โทร. 0-4281-0833, 0-4281-0834

 

รถโดยสารประจำทาง

 

เดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (หมอชิต 2) สายกรุงเทพ-เมืองเลย ลงรถที่ผานกเค้า หรือสถานีขนส่งอำเภอภูกระดึง แล้วต่อรถสองแถวเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง สอบถามข้อมูลรถโดยสาร โทร.0-2936-2852-66 อัตราค่าโดยสาร

  • รถปรับอากาศ VIP 24 ที่นั่ง ราคา 590 บาท
  • รถปรับอากาศ VIP 32 ที่นั่ง ราคา 449 บาท
  • รถปรับอากาศ ชั้น 1 ราคา 258 บาท
  • รถปรับอากาศ ชั้น 2 ราคา 280 บาท

 

ลงรถที่ผานกเค้า หมายเหตุ - ต่อรถสองแถวจากผานกเค้า ถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ราคา 30 บาท/คน

 

ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าไปท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง สามารถติดต่อ สอบถาม หรือสำรองการเข้าไปใช้บริการล่วงหน้า ทั้งที่พักประเภทเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติและพื้นที่กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่นำเต็นท์มาเองตามแผนผังจุดพักแรม ก่อนเดินทาง โดยมีช่องทาง ดังนี้