"อัจฉริยะ" เปิด 8 ประเด็นเด็ด มั่นใจพลิก "คดีแตงโม" สู่ฆาตกรรมอำพราง  

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธาน ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยวานนี้ (27 พ.ค.) ว่าได้รับมอบอำนาจอย่างเป็นทางการจาก นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของดาราสาว “แตงโม นิดา” หรือ ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ให้ดูแลคดีแตงโม โดยขณะนี้ทางแม่เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมอำพราง ตนเองได้เดินเรื่องยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ขอให้มีคำสั่งไปที่อัยการนนทบุรี สอบสวนคดีการเสียชีวิตของแตงโมเพิ่มเติมอีก 8 ประเด็น ดังนี้

1. สอบปากคำ แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ในฐานะพยานผู้เชี่ยวชาญคนกลาง ที่ระบุข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ได้ว่าแตงโมตกท้ายเรือหรือหัวเรือ
2. สอบปากคำ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎ ประเด็นเรื่องบาดแผลที่ต้นขาขวา
3. สอบปากคำ ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ ที่ระบุว่าการตกท้ายเรือเป็นไปไม่ได้
4. สอบปากคำ นายบอล เจ้าของอู่เรือ NBC ว่าหลังจากคนบนเรือนำเรือมาเก็บ ได้มีการนำเรือออกไปใช้งานที่ไหนอีกหรือไม่
5. สอบปากคำ นายเซียะ เจ้าของอู่เรือ NBC ตัวจริง  เรื่องเซิร์ฟเวอร์ภาพวงจรปิดภายในอู่เรือว่าเสียจริงหรือไม่
6. ให้หน่วยงานพิสูจน์หลักฐานกลาง หรือพิสูจน์หลักฐานของกระทรวงยุติธรรม ทำการตรวจพิสูจน์เรือลำเกิดเหตุใหม่ เพื่อหาคราบเลือด แต่จะไม่ให้พิสูจน์หลักฐานจากตำรวจภูธรภาค 1 เป็นผู้พิสูจน์ เพราะไม่ไว้ใจ
7. ยึดเสื้อผ้าที่คนบนเรือใส่ในวันเกิดเหตุ มาตรวจสอบดีเอ็นเอและคราบเลือด ซึ่งตนทราบมาว่าตำรวจยังไม่เคยดำเนินการ
8. ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องอาวุธมีด ว่าใครเป็นคนพกไว้ตอนที่อยู่บนเรือ

นายอัจฉริยะกล่าวว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป ก็คือจะมีการพิสูจน์เรือใหม่ ซึ่งขณะนี้ต่อจิ๊กซอว์ไปได้เยอะแล้ว จากนั้นคือแนวทางของการฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมอำพรางนักแสดงสาว "แตงโม นิดา”

นอกจากนี้ ยังระบุว่า ถ้าอัยการสอบ 8 ประเด็นที่ยื่นไปดังกล่าว จะทำให้เห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนนำไปสู่การเสียชีวิตของแตงโมนั้น ไม่ได้เกิดจากความประมาทที่มีการตกท้ายเรือ เขามั่นใจว่าจะใช้พยานไม่เกิน 15 คน และใช้เวลาไม่นานในการพิสูจน์ความจริง ซึ่งจะเน้นใช้นิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก ไม่ได้ใช้คน และจะมีการดำเนินคดีกับพยานเท็จที่สามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าจะมีการดำเนินคดี 1 รายที่เป็นพยานที่ตำรวจนำมาอ้างอิง ซึ่งเป็นพยานเท็จ

นายอัจฉริยะยังกล่าวด้วยว่า มีพยาน 2 คนมาชี้จุดที่เห็นว่าคนบนเรือทิ้งอะไรบางอย่างลงไปในน้ำ ดังนั้น จะมีการค้นหาวัตถุพยานในวันจันทร์นี้ (30 พ.ค.) โดยจะใช้โดรนใต้น้ำสำรวจหาวัตถุพยานสำคัญตั้งแต่ 9 โมงเช้าเป็นต้นไป เริ่มจากสะพานซังฮี้ไปยังสะพานพระราม 8 ระยะทางประมาณ 6 กม. ใช้วิธีปูพรมค้นหาโดยใช้โดรนใต้น้ำและเครื่องสแกนโลหะ หรือแม้กระทั่งแก้วที่ทิ้งไป และจะมีการตรวจคราบเลือดในเรือใหม่อีกครั้ง

สำหรับหลักฐานใหม่ที่จะโยงไปถึงการฆาตกรรมนั้น ตนยังไม่ขอเปิดเผย แต่ยืนยันจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง คดีนี้มีการบิดเบือนไปมาก ซึ่งตนก็แย้งกับตำรวจมาตลอดโดยเฉพาะเรื่องที่ว่าแตงโมตกเรือจากด้านท้ายเรือซึ่งตนไม่เคยเชื่อ นายอัจฉริยะกล่าวด้วยว่า ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ "บังแจ๊ค" ตนจะไปแถลงวันที่ 2 มิ.ย.ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ว่าไม่ได้มีส่วนร่วมมือกับบังแจ๊คแต่อย่างใด

ในการทำคดีนี้ ทางชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมที่นายอัจฉริยะเป็นประธานชมรม มีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานและว่าความคดี โดยนายอัจฉริยะระบุว่า จะเชิญอดีตผู้ว่าศาลศาลฎีกามาร่วมเป็นทีมงานด้วย และมีผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด 15 คนจากทุกสาขา รวมทั้งด้านการแพทย์ คือ แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่จะมีการพิสูจน์เรื่องบาดแผลก้างปลา ที่ชี้ว่าแตงโมไม่ได้ตกท้ายเรือและจะบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือแน่ นอกจากนี้ ยังจะมีผู้ที่เชี่ยวชาญทางเรือ ทางเรื่องระบบจีพีเอส รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญเรื่องแสงและเงา มาร่วมทีมพิสูจน์ความจริง