ศบค.ย้ำลดระดับเตือนภัยโควิด ยังต้องเฝ้าระวังสูง ถกปรับมาตรการ 20 พ.ค.นี้

12 พ.ค. 2565 | 15:25 น.
อัปเดตล่าสุด :12 พ.ค. 2565 | 22:35 น.

ศบค.ย้ำสธ.ลดละดับเตือนภัยโควิด-19 เหลือระดับ 3 ยังต้องเฝ้าระวังสูง ยังไม่ถึงขั้นผ่อนคลายให้ใช้ชีวิตตามปกติ เผย 20 พ.ค.นี้ ศบค.ชุดใหญ่ถกถึงการปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

วันนี้ (12 พ.ค.65) แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือศบค. แถลงข่าวช่วงหนึ่งถึงการลดระดับเตือนภัยโควิด-19 จากระดับ 4 เป็นระดับ 3 ของกระทรวงสาธารณสุขว่า เป็นการพิจารณาให้สอดคล้องกับสถานการณ์การติดเชื้อทั่วโลกและประเทศไทย ไม่ว่าจะการติดเชื้อ ภาวะปอดอักเสบ ใส่เครื่องช่วยหายใจ แนวโน้มลดลงและทรงตัว

 

การที่ สธ. ประกาศเป็นระดับ 3 ยังต้องเฝ้าระวังสูง ยังจำกัดการรวมกลุ่มและยังไม่ถึงขั้นผ่อนคลาย ที่ประชาชนจะใช้ชีวิตได้ตามปกติ ในบางพื้นที่ยังมีการรายงานติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน จากการผ่อนคลายมาตรการเร็วเกินไป หรือ ประชาชน นักท่องเที่ยว ลดหย่อนมาตรการ ย้ำว่าเรายังอยู่ระดับ 3

ศบค.ย้ำลดระดับเตือนภัยโควิด ยังต้องเฝ้าระวังสูง ถกปรับมาตรการ 20 พ.ค.นี้

 

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในต่างประเทศ เราไม่สามารถยึดประเทศใดเป็นต้นแบบได้ เพราะพี่น้องประชาชนหลายส่วน มีการนำข่าวมานำเสนอว่าผับบาร์ในประเทศต่างๆ เปิด บางประเทศไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย เน้นย้ำว่าต้องยึดประกาศของ ศบค. และ สธ. ไทย เป็นหลัก

ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้มีการหารือถึงการเปิดภาคเรียนในวันที่ 17 พ.ค.นี้  โดยผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ ได้รายงานการฉีดวัคซีนโควิด-19 ข้อมูลวันที่ 11 พ.ค.65 ในเด็ก 12 ปีขึ้นไป 5,114,503 ราย ประสงค์ฉีดวัคซีน 4,474,211 ราย คิดเป็น 87.48% แบ่งเป็น

 

  • ได้รับเข็ม 1 จำนวน 4,274,155 ราย คิดเป็น 95.53%
  • ได้รับเข็ม 2 จำนวน 3,511,087 ราย 78.47%
  • ได้รับเข็มกระตุ้น จำนวน 56,167 ราย 1.26%

 

ศบค.ย้ำลดระดับเตือนภัยโควิด ยังต้องเฝ้าระวังสูง ถกปรับมาตรการ 20 พ.ค.นี้

ภาพรวมจำนวนนักเรียนที่ฉีดวัคซีน อายุระหว่าง 5 - ไม่เกิน 12 ปี จำนวน 5,263,106 ราย พบว่า ประสงค์ฉีดวัคซีน 3,369,572 ราย คิดเป็น 64.02% แบ่งเป็น 

  • ฉีดเข็ม 1 จำนวน 1,785,414 ราย คิดเป็น 52.99%
  • ฉีดเข็ม 2 จำนวน 296,209 ราย คิดเป็น 8.79%

ศบค.ย้ำลดระดับเตือนภัยโควิด ยังต้องเฝ้าระวังสูง ถกปรับมาตรการ 20 พ.ค.นี้

 

ทั้งนี้ ขอให้ติดตามผลการประชุมหารือของ ศบค.ชุดใหญ่ ถึงการปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ในวันศุกร์ที่ 20 พ.ค.ที่จะถึงนี้