วิกฤติขาดเลือดหนัก "ศิริราช" วอนบริจาคโลหิตกรุ๊ป O, A , B

03 พ.ค. 2565 | 13:27 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ค. 2565 | 20:53 น.

วิกฤตขาดแคลนเลือดยังคงมีอยู่ โรงพยาบาลศิริราชระบุ แต่ละวันต้องการเลือดไม่ต่ำกว่า 150 ยูนิต แต่ปริมาณการบริจาคกลับมีแค่วันละ 60 ยูนิต โดยหมู่เลือดที่ขาดได้ แก่ O, A และ B เผยคุณสมบัติแบบไหนสามารถบริจาคเลือดได้  

โรงพยาบาลศิริราช ย้ำ วิกฤติขาดแคลนเลือด ยังคงอยู่ แม้มีการเชิญชวนบริจาค ประกอบกับวันหยุดยาว และสถานการณ์โควิด ทำให้ยอดบริจาคมีน้อย บางวันแค่ 60 ยูนิต ทั้งที่ปริมาณการใช้มากถึงวันละ 150 ยูนิต ตอนนี้ขาดหมู่เลือด O, A และ B วอนผู้มีร่างกายแข็งแรงร่วมบริจาค


พญ.ปาริชาติ เพิ่มพิกุล หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์การธนาคารเลือด กล่าวถึงสถานการณ์การเลือดขาดว่า ขณะนี้ยังมีความต้องการเลือดอีกจำนวนมาก โดย รพ.ศิริราช เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ทำให้มีความต้องการเลือดจำนวน แต่ละวันต้องการปริมาณเลือดไม่ต่ำกว่า 150 ยูนิต แต่สถานการณ์การบริจาคกลับมีแค่ 60 ยูนิต โดยหมู่เลือดที่ขาดได้ แก่ O, A และ B ส่วนหมู่เลือด AB มีเพียงพอ


อย่างไรก็ตาม คาดว่าสถานการณ์เลือดที่ขาดแคลนและเข้าขั้นวิกฤติทั้งที่รพ.ศิริราชและสภากาชาดไทย มาจากหลายปัจจัยประกอบกัน ดังนี้

  1. สถานการณ์วันหยุดยาว ทำให้จำนวนผู้บริจาคลดลง
  2. สถานการณ์การติดเชื้อโควิดที่คนติดง่าย ทำให้บางคนอยู่ระหว่างการกักตัวดูอาการ หรือการรักษา

 

ทั้งนี้ สถานการณ์เลือดถือว่าเข้าขั้นวิกฤติ เนื่องจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา 28-29 เมษายน 2565 ยอดจำนวนผู้บริจาคน้อย เปรียบกับปริมาณการใช้ โดยผู้ป่วยที่ใช้เลือดประจำ ได้แก่ ผู้ป่วยธาลัสซีเมีย จนต้องมีการเจรจาขอให้ลดปริมาณเลือด ให้แค่บรรเทาอาการ เพื่อให้ผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่มีความจำเป็นต้องใช้เลือดได้ใช้ด้วย


พญ.ปาริชาติ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยบริจาค 1 คน จะให้เลือดได้ 1 ยูนิต โดยเลือดจำนวนนี้เมื่อบริจาคไปแล้ว ไม่สามารถใช้ได้ทันที ต้องผ่านการตรวจเชื้อ HIV และไวรัสตับอักเสบ B และ C และปั่นแยกเลือด เกล็ดเลือด และพลาสมาออกจากกัน เพื่อไปใช้ในผู้ป่วยอื่น ทำให้กว่าจะนำเลือดมาใช้ได้คือวันถัดไป

ทั้งนี้ จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนที่มีร่างกายแข็งแรง พักผ่อนเพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง น้ำหนัก 48 กิโลกรัมขึ้นไป และต้องไม่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคลมชัก โรคหัวใจหรือเคยเจ็บแน่นหน้าอก สามารถร่วมบริจาคได้ ผู้บริจาคสามารถรับประทานอาหารและน้ำได้ตามปกติ แต่ขอให้หลีกเลี่ยงอาหารประเภทที่มีไขมันสูง งดสูบบุหรี่ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่เข้าข่ายผู้มีความเสี่ยงติดโควิด-19

 

ส่วนในกรณีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วต้องการบริจาคโลหิต ขอให้งดเว้น 7 วันแล้วค่อยมาบริจาค และหากมีอาการข้างเคียง ขอให้งดเว้น 14 วัน หลังไม่มีอาการ

เชิญชวนบริจาคเลือด