โควิดโอมิครอน BA.4-BA.5 กับ 6 เรื่องที่เราควรรู้

01 พ.ค. 2565 | 21:30 น.
อัปเดตล่าสุด :02 พ.ค. 2565 | 04:33 น.
3.8 k

ยังคงต้องจับตาโควิดโอมิครอนโดยเฉพาะที่มีการกลายพันธุ์อย่าง BA.4-BA.5 มี 6 เรื่องที่เราควรรู้เกี่ยวกับโควิดกลายพันธุ์นี้

“แอฟริกาใต้” รายงานโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยที่เพิ่งถูกค้นพบในเดือน เม.ย.นี้ อาจจะมีความสามารถในการทั้งในการหลบหลีกทั้งภูมิคุ้มกันจากวัคซีนและภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อก่อนหน้านี้  โดยโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยคือ สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ที่ถูกค้นพบว่ามีศักยภาพในการติดเชื้อมากกว่าโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ BA.2

นพ.ทูลิโอ เด โอลิเวียรา นักวิทยาศาสตร์ชาวแอฟริกาใต้ที่เป็นหัวหน้าหน่วยงานที่ได้ศึกษาลำดับพันธุกรรมของสายพันธุ์ไวรัสโควิด ระบุว่าการกลายพันธุ์ในสายพันธุ์ที่ส่งผลทำให้ไวรัสนั้นสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้

คาดว่าการกลายพันธุ์สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำและฝ่าภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการฉีดวัคซีนได้ เนื่องกรณีการติดเชื้อจำนวนมาก

1.สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ถูกค้นพบที่ไหน

  • สายพันธุ์ BA.4 ระหว่างวันที่ 10 ม.ค.-30 มี.ค. 2022 สิ้นสุดวันที่ 8 เมษายน พบผู้ติดเชื้อ BA.4  ในแอฟริกาใต้ 41 คน ประเทศบอตสวานา 2 คน เดนมาร์ก 3 คน อังกฤษ และสกอตแลนด์ ประเทศละ 1 คน
  • สายพันธุ์ BA.5 สิ้นสุดวันที่ 8 เมษายน พบผู้ติดเชื้อในแอฟริกาใต้ 27 คน ประเทศบอตสวานา 3 คน โดยผู้ติดเชื้อ BA.4 และ BA.5 ทั้ง 5 คน ของประเทศนี้ เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบสูตรแล้ว และมีอายุระหว่าง 30-50 ปี

 

2.สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 อันตรายแค่ไหน

  • ยังไม่มีข้อมูลที่จะสรุปได้ว่า สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 สามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วหรือมีอันตรายถึงชีวิตมากไปกว่าสายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิม

 

3.การกลายพันธุ์ของโควิด BA.4 และ BA.5

BA.4 และ BA.5 มีรหัสพันธุกรรมที่ใกล้เคียงกับ BA.2 แต่มีการกลายพันธุ์เพิ่มเติมจาก BA.2 เพียง 2 ตำแหน่ง คือ ตำแหน่ง L452R ซึ่งจะช่วยให้ไวรัสเกาะติดกับเซลล์ร่างกายของมนุษย์เพื่อสร้างทางเข้าไปในสารพันธุกรรมของมนุษย์ได้ เช่นเดียวกับสายพันธุ์เดลตา และตำแหน่ง F486V ไม่ค่อยพบในสายพันธุ์อื่นๆ แต่การขาดหายไปของตำแหน่ง 69-70 ที่พบในสายพันธุ์ BA.1 แต่หายไปใน สายพันธุ์ BA.2  ถูกกลับมาพบอีกครั้งในสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ส่งผลดีต่อการตรวจแยกสายพันธุ์มากกว่า BA.2

 

4.โควิด BA.4 และ BA.5 หลบภูมิไหม 

  • จำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเพราะการกลายพันธุ์นี้ อาจทำให้เกิดการหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกันในกลุ่มผู้ที่เคยติดเชื้อหรือได้รับวัคซีนครบสูตร
  • WHO จับตาการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 อย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับ สายพันธุ์ BA.1 และ BA.2 BA.3 และ BA.1.1

 

5. BA.4 และ BA.5 กับ วัคซีนในปัจจุบัน 

วัคซีนต้านโควิดที่ได้รับการรับรองจาก WHO  ยังคงป้องกันไม่ให้คนส่วนใหญ่เกิดอาการเจ็บป่วยหนักหรือเสียชีวิต โดยเฉพาะกับกลุ่มคนที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น และการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และมีโรคร่วม

 

6.การกลายพันธุ์ของ BA.4 และ BA.5 เกิดขึ้นได้

  • โควิดเกิดการกลายพันธุ์มาตั้งแต่มนุษย์ค้นพบรวมถึงก่อนหน้านั้นด้วย การกลายพันธุ์ย่อมเกิดขึ้นได้มากกว่าที่มนุษย์ค้นพบมาโดยตลอด
  • การกลายพันธุ์ส่วนใหญ่มักจะไม่มีผลกระทบต่อไวรัส หลายครั้งทำให้ไวรัสอ่อนแอลง บางครั้งทำให้ผู้คนอ่อนแอลงได้เช่นกัน
  • ขณะที่อัตราการกลายพันธุ์ถูกเร่งขึ้นได้ ภายใต้เงื่อนไขเช่น การแพร่ระบาดโรคที่ไม่สามารถควบคุมได้  การปฏิสัมพันธ์ระหว่างไวรัสในกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด