สัญญาณเตือน“มะเร็งปอด” คร่าชีวิต“วิทยา ศุภพรโอภาส”มีอาการเหล่านี้ระวัง

21 เม.ย. 2565 | 13:50 น.
อัปเดตล่าสุด :21 เม.ย. 2565 | 21:06 น.

กรมการแพทย์ ชี้มะเร็งปอดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของคนไทย แนะสังเกตตัวเอง พร้อมเผยสัญญาณเตือนอาการที่น่าสงสัยว่าอาจเป็นโรคมะเร็งปอด หากมีอาการเหล่านี้ต้องระวัง ล่าสุด "วิทยา ศุภพรโอภาส"ก็ได้เสียชีวิตในวัย 73 ปี จากการรับการผ่าตัดรักษา “มะเร็งปอด" เช่นกัน

สิ้นแล้ว "วิทยา ศุภพรโอภาส" เสียชีวิตในวัย 73 ปี หลังเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งปอด โดย "วิทยา ศุภพรโอภาส" จัดว่าเป็นนักจัดรายการชื่อดัง ผู้บุกเบิกคลื่นลูกทุ่ง เอฟเอ็ม และมีฉายา “แหบเสน่ห์”

 

กรมการแพทย์ ระบุว่า มะเร็งปอดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของคนไทย แนะสังเกตสัญญาณเตือน อาการที่น่าสงสัยว่าอาจเป็นโรคมะเร็งปอด

 

สิ้นแล้ว "วิทยา ศุภพรโอภาส"

 

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า มะเร็งปอดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2ของคนไทย (เป็นอันดับ 2 ในผู้ชายรองจากมะเร็งตับ และ เป็นอันดับ 1 ในผู้หญิง) การตรวจคัดกรองให้พบโรคในระยะแรกทำได้ยาก และมีอัตราการตายสูง

 

สาเหตุสำคัญ

 

  • การสูบบุหรี่รวมถึงยามวนต่างๆ เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดของโรคมะเร็งปอด ผู้สูบบุหรี่อาจมีโอกาสเป็นมะเร็งปอดมากกว่าผู้ไม่สูบถึง 10 เท่า รวมถึงผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่เองโดยตรง แต่สูดดมจากบุหรี่ที่ผู้อื่นสูบก็มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป เพราะในควันบุหรี่มีสารก่อมะเร็งมากกว่า 60 ชนิด

 

  • ได้รับแร่ใยหิน (แอสเบสตอส) เป็นแร่ที่ใช้ในอุตสาหกรรมหลายชนิด เช่นการก่อสร้าง โครงสร้างอาคาร ผ้าเบรค ฉนวนกันความร้อน ผู้เสี่ยงคือผู้ที่อาศัยหรือทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแอสเบสตอสปนเบื้อนเป็นเวลานาน อาจใช้เวลา 15-35 ปี ในการทำให้เกิดมะเร็งปอด สำหรับผู้ไม่สูบบุหรี่แต่ทำงานกับฝุ่นแอสเบสตอส อาจเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดมากกว่าคนทั่วไปถึง 5 เท่า

 

 

  • สาเหตุอื่นๆ มลภาวะเช่น PM 2.5 สารเบนซิน ฟอร์มาลดีฮายด์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามผู้ป่วยมะเร็งปอดจำนวนมาก ไม่เคยมีประวัติสูบบุหรี่ หรือ แอสเบสตอส มาก่อนปัจจุบันยังไม่มีแนวทางการคัดกรองโรคมะเร็งปอดที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า เมื่อผู้ป่วยมีอาการผิดปกติมักจะเป็นโรคในระยะที่ลุกลามไปแล้ว ทำให้การตรวจพบโรคในระยะแรกทำได้ยาก และ มีอัตราตายสูง วิธีที่ดีที่สุดในปัจจุบันจึงเป็นการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ

 

อาการที่น่าสงสัยว่าอาจเป็นโรคมะเร็งปอด ได้แก่

 

  • ไอเรื้อรังติดต่อกันมากกว่า 2 สัปดาห์
  • ไอเป็นเลือดหรือมีเสมหะปนเลือด
  • เจ็บหน้าอก
  • น้ำหนักลด
  • เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
  • เบื่ออาหาร
  • บางรายอาจมีไข้ต่ำ ๆ
  • มีปอดติดเชื้อซ้ำซาก
  • จริงๆแล้วอาการเหล่านี้ไม่ได้เป็นอาการที่เฉพาะเจาะจงกับมะเร็งปอดอาจพบในโรคอื่นได้ เช่น วัณโรคปอด หากมีอาการสงสัยต้องทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม การวินิจฉัย ทำโดยการถ่ายภาพรังสีปอด (X-ray หรือ CT scan) ร่วมกับการตรวจหาเซลมะเร็งเช่นการตรวจจากเสมหะ หรือการตัดชิ้นเนื้อจากปอดมาตรวจ เมื่อพบว่าเป็นมะเร็งปอดแน่นอนแล้วแพทย์จะเป็นผู้ให้ข้อมูลเพื่อให้ผู้ป่วยและญาติร่วมตัดสินใจ โดยพิจารณาจากชนิดของมะเร็ง ระยะโรคและการลุกลาม ความแข็งแรงของผู้ป่วยเป็นหลัก

 

การรักษา

 

  • สำหรับการรักษามีทั้งการผ่าตัด การใช้ยา การฉายแสง หรือรักษาร่วมกันหลายวิธี เนื่องจากมะเร็งปอดการตรวจคัดกรองให้พบโรคในระยะแรกทำได้ยาก และ มีอัตราตายสูงหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง

 

  • ดังนั้นการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น งดสูบบุหรี่ ป้องกันตัวจากการสัมผัสแร่ใยหิน หรือ มลภาวะ หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง รับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้น ออกกำลังกายสม่ำเสมอและพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย และ รีบมาพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญ