‘ไฮโซปลาวาฬ’ขับรถชน ตำรวจแจงแล้วทำไมไม่ตรวจแอลกอฮอล์

28 มี.ค. 2565 | 01:00 น.
อัปเดตล่าสุด :28 มี.ค. 2565 | 05:51 น.
3.3 k

‘ไฮโซปลาวาฬ’ขับรถชน ทางตำรวจแจงแล้วทำไมไม่ตรวจแอลกอฮอล์ ดำเนินคดีปรับ1,000บาท โต้นักกฎหมายวิจารณ์เจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผิดตามมาตรา 157

จากกรณี "ไฮโซปลาวาฬ" หรือนายวรสิทธิ อิสสระ  ‘ปลาวาฬ’ อายุ 40 ปี ทายาทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของโรงแรมศรีพันวา ขับรถยนต์ยี่ห้อหรูเบนท์ลี่ย์สีดำ หมายเลขทะเบียน 1ขษ7426 กรุงเทพ และเกิดอุบัติเหตุขับรถเสียหลักแหกโค้ง ชนราวเหล็กริมทางบนถนนเพชรเกษม บริเวณโค้งบ้านขนิม ม.7 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ก่อนรถเกิดไฟลุกไหม้ทั้งคันเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 24 มี.ค.65 ที่ผ่านมา บนถนนเพชรเกษม สายเขาหลัก-อำเภอท้ายเหมือง บริเวณโค้งบ้านขนิม ม.7 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

 

‘ไฮโซปลาวาฬ’ขับรถชน

‘ไฮโซปลาวาฬ’ขับรถชน

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพบจุดเกิดเหตุในเบื้องต้นพบการ์ดเลน หรือราวกั้นทางโค้ง ได้รับความเสียหาย มีความยาวประมาณ 30 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย แต่ยืนยันว่าไม่ต้องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ เนื่องจากไม่มีคู่กรณี หรือผู้ได้รับบาดเจ็บ

 

ล่าสุดมีนักกฎหมายออกมาวิจารณ์ว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สั่งให้ผู้ขับขี่รถยนต์คันที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด อาจเข้าข่ายจงใจช่วยเหลือผู้กระทำผิดให้ไม่ต้องรับโทษ เป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผิดตามมาตรา 157

เนื่องจาก ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2542 มาตรา 43 (2) ห้ามขับขี่รถยนต์ในขณะเมาสุรา ฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 160 ตรี จำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับ 5,000-20,000 บาท และสั่งพักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 6 เดือน และในกรณีที่เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานสอบสวนเห็นว่า ผู้ขับขี่ฝ่าฝืนมาตรา 43 (2) ให้พนักงานสอบสวนสั่งให้มีการทดสอบว่าผู้ขับขี่เมาสุราขณะขับขี่หรือไม่ ถ้าผู้ขับขี่ขัดขืนมีโทษปรับครั้งละ 1,000 บาท และให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นขับขี่รถขณะเมาสุราแม้ไม่ยอมทดสอบ และในกรณีที่รถยนต์มีประกันภัยภาคสมัครใจ หากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้น และน่าเชื่อว่าจะมีสาเหตุจากการเมาแล้วขับ 

 

บริษัทประกันฯ จะต้องขอให้มีผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ มาประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทน หากผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการเมาแล้วขับ บริษัทประกันภัยรถยนต์จะไม่คุ้มครองผู้เอาประกัน

 

‘ไฮโซปลาวาฬ’ขับรถชน

 

ต่อข้อวิจารณ์ดังกล่าวล่าสุด พ.ต.อ.บริบูรณ์ อยู่สุขสมบูรณ์ ผกก.สภ.ท้ายเหมือง ชี้แจงว่า หลังจากพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งว่า มีรถประสบอุบัติเหตุและเพลิงไหม้รถ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนายวรสิทธิ อิสสระ ผู้ขับขี่ และนายธนันชัย เดชจักรทิพย์ ผู้โดยสาร ทางพนักงานสอบสวนและสายตรวจตำบล ได้สอบถามพูดคุยอยู่ประมาณ 10 นาที ไม่พบกลิ่นแอลกอฮอล์ที่บุคคลทั้ง 2 จึงไม่ได้สงสัยว่าผู้ขับขี่ได้เมาสุราในขณะขับรถ

 

ในส่วนเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ของสภ.ท้ายเหมืองมีอยู่ จำนวน 4 เครื่อง ซึ่งได้ส่งคืน ภ.จว.พังงา เพื่อตรวจมาตรฐานการวัดค่าไปยังบริษัท ช.แอดวานซ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ผ่านทางภ.จว.พังงา เมื่อวันที่ 24 เดือน ก.พ.2565 และล่าสุดได้รับแจ้งว่าบริษัท ฯ ยังไม่ได้ส่งเครื่องตรวจแอลกอฮอล์กลับมาที่ ภ.จว.พังงา ซึ่งกรณีหากตรวจพบว่าผู้ขับขี่มีอาการเมาสุรา เจ้าหน้าที่จะทำการส่งตัวไปตรวจโลหิตที่โรงพยาบาลท้ายเหมือง เพื่อวัดค่าแอลกอฮอล์ในโลหิตต่อไป และหากผู้ขับขี่ไม่ให้ความร่วมมือ ทางโรงพยาบาลจะบันทึกเป็นหลักฐานส่งร้อยเวรต่อไป 

 

ส่วนการดำเนินคดีกับปลาวาฬนั้นทางพนักสอบสวนสภ.ท้ายเหมืองได้เหมืองแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย และได้เปรียบเทียบปรับผู้ต้องหา จำนวน 1,000 บาท (อัตราสูงสุด) แล้ว

 

ด้านนายอัษฎายุทธ สร้อยทอง อดีตสจ.เขต อ.ท้ายเหมือง ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ตอนที่ไฟยังไม่ได้ลุกไหม้รถ และได้จอดรถลงไปสอบถามพร้อมให้ความช่วยเหลือ โดยที่ไม่เคยรู้จัก ‘ปลาวาฬ’ มาก่อน ยืนยันว่าจากการเข้าไปพูดคุยกับคนขับและเพื่อน ไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์หรือมีอาการของคนเมาสุราแต่อย่างใด