"หมอธีระ"ห่วงคนไทยเสียชีวิตจาก"โควิด"เพิ่มขึ้น 38%

15 มี.ค. 2565 | 09:55 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มี.ค. 2565 | 17:55 น.

น่าตกใจ !"หมอธีระ"เผยสถิติผู้เสียชีวิตจากโควิดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบไทยเราน่าเป็นห่วงเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 38% ขณะที่ทวีปเอเชียลดลงเฉลี่ย 8% ทั่วโลกลดลงเฉลี่ย 17% เตือนวัคซีนเข็มกระตุ้นจำเป็น

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุข้อความว่า...

ทะลุ 459 ล้าน

 

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 973,604 คน ตายเพิ่ม 3,707 คน รวมแล้วติดไปรวม 459,222,287 คน เสียชีวิตรวม 6,070,220 คน

 

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีใต้ เยอรมัน ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และรัสเซีย

 

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 9 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก

 

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 90.31 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 77.79

 

การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 51.77 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 40.27

...สถานการณ์ระบาดของไทย

 

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย

 

ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน 66 คน สูงเป็นอันดับ 18 ของโลก

 

สถิติจำนวนผู้เสียชีวิตในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ทั่วโลกลดลงเฉลี่ย 17% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า โดยทวีปเอเชียลดลงเฉลี่ย 8% แต่ของไทยเราน่าเป็นห่วง เพราะเพิ่มขึ้น 38% (จากข้อมูล Worldometer)

 

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

..อัพเดตงานวิจัย

Vivaldi G และคณะ ได้ทำการศึกษาติดตามประชากรอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 14,713 คน ตั้งแต่มกราคมปีก่อนจนถึงกุมภาพันธ์ปีนี้ โดยประชากรที่ศึกษาทั้งหมดนั้นได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วและจำนวน 10,665 คนได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น

 

หากเปรียบเทียบกันเรื่องชนิดวัคซีนที่ฉีด พบว่ากลุ่มที่ได้วัคซีน ChAdOx1 จะมีความเสี่ยงที่จะการเกิดการติดเชื้อในช่วงที่ติดตามผล (breakthrough infection) มากกว่ากลุ่มที่ได้วัคซีน BNT162b2 1.63 เท่า (ช่วงความเชื่อมั่นตั้งแต่ 1.41-1.88 เท่า)

โดยหากเปรียบเทียบทั้งสองกลุ่มหลังได้รับเข็มกระตุ้น โดยกลุ่มที่ได้ ChAdOx1 มาก่อนและได้รับเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน mRNA-1273 เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้ BNT162b2 มาก่อนและรับเข็มกระตุ้นด้วย BNT162b2 ผลก็ออกมาคล้ายกันคือ 1.29 เท่า (ช่วงความเชื่อมั่นตั้งแต่ 1.03-1.61 เท่า)

 

นอกจากนี้ยังพบว่าปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่สำคัญคือ ประชากรที่มีระดับการศึกษาที่ต่ำกว่าจะมีโอกาสติดเชื้อมากกว่า และประชากรที่มีพฤติกรรมเสี่ยงระหว่างการดำเนินชีวิตประจำวัน คือการเข้าไปในสถานที่ปิด/พื้นที่ภายในอาคารบ่อยๆ อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ (indoor public space)

 

ผลจากการวิจัยในสหราชอาณาจักรชิ้นนี้ ตอกย้ำถึงความสำคัญของการให้ความรู้ และกระตุ้นเตือนให้เกิดความตระหนักของประชาชนในสังคม ที่จะป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อแพร่เชื้อระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน

 

การใส่หน้ากาก เว้นระยะห่างจากคนอื่น พบปะคนอื่นเท่าที่จำเป็น ใช้เวลาสั้นๆ เลี่ยงการกินดื่มหรือแชร์ของกินของใช้กับผู้อื่น ระมัดระวังการไปในสถานที่อับ ระบายอากาศไม่ดี

 

หากไม่สบาย ควรหยุดเรียนหยุดงาน ไปตรวจรักษาให้หายดีเสียก่อน

 

การไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นนั้นมีความจำเป็น

 

ด้วยสถานการณ์ของไทยที่ยังมีการติดเชื้อมาก กระจายทั่ว หัวใจสำคัญที่สุดตอนนี้คือเรื่องพฤติกรรมที่กล่าวมาข้างต้นครับ

 

อ้างอิง

Vivaldi G et al. Risk factors for SARS-CoV-2 infection after primary vaccination with ChAdOx1 nCoV-19 or BNT1262b2 and after booster vaccination with BNT1262b2 or mRNA-1273: a population-based cohort study (COVIDENCE UK). medRxiv. 13 March 2022.

รศ.นพ.ธีระ  โพสต์เฟซบุ๊ก ห่วงคนไทยงเสียชีวิตจากโควิดเพิ่มขึ้น 38%