ศบค.เผยมีผู้สูงอายุกว่า 2 ล้านราย ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด 19

14 มี.ค. 2565 | 14:22 น.
อัปเดตล่าสุด :14 มี.ค. 2565 | 21:33 น.

ศบค.เผยยังมีผู้สูงอายุกว่า 2 ล้านราย ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด 19 ขอให้ลูกหลานเร่งนำญาติผู้ใหญ่มารับวัคซีน โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว

วันที่ 14 มี.ค.65 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.แถลงช่วงหนึ่งว่า สิ่งที่ศบค.ชุดเล็กกังวล ก็คือ ในจำนวนผู้เสียชีวิต 69 รายวันนี้ มีถึง 61 รายคิดเป็น 89% ยังได้รับวัคซีนไม่ครบโด้ส มี 26 รายไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มที่ 1 มี 8 รายได้รับวัคซีนเข็ม 3 แล้วแต่พบว่าทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว 

 

เมื่อสำรวจการให้บริการวัคซีนกลุ่มเป้าหมายหลักของปี 2565  มีประชากรอายุเกิน 60 ปี กลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ 12,704,543 ราย ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้ว 83.3% เข็มที่ 2 ไปแล้ว 78.8%  ส่วนเข็มที่ 3 ยังค่อนข้างต่ำอยู่ที่ 32% ณ วันที่ 13 มีนาคม 2565

ศบค.เผยมีผู้สูงอายุกว่า 2 ล้านราย ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด 19

 

ดังนั้นยังมีผู้สูงอายุกว่า 2 ล้านคน ยังไม่ได้รับวัคซีน บางท่านยังไม่ได้รับแม้แต่เข็มที่ 1  ขอให้ลูกหลานเร่งนำญาติผู้ใหญ่มารับวัคซีนโดยเฉพาะผู้สูงอายุกว่า 2 ล้านคน ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว  และผู้สูงอายุที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็ม 2 เกิน 3 เดือนไปแล้ว อยากให้เข้ามารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย

ศบค.เผยมีผู้สูงอายุกว่า 2 ล้านราย ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด 19

  

พญ.อภิสมัย เน้นย้ำว่า หากประชาชนมีอาการไอ มีไข้ มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ หรือไม่มีอาการ แต่ไปสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน หรือผู้ป่วยสัมผัสเสี่ยงสูง หรือเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง นอกจากตรวจ ATK เองแล้ว ให้คอยสังเกตอาการคนรอบข้าง และให้เข้าสู่กระบวนการรักษาให้เร็วที่สุด โดยติดต่อไปที่ 1330 สปสช. ซึ่งภายใน 6-24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับ และจับคู่กับสถานพยาบาลให้ อย่างไรก็ดี ศบค.ต้องขออภัย หาก สปสช.ยังไม่ได้มีการติดต่อกลับไป เนื่องจากปริมาณผู้ป่วยที่เข้าระบบเกินกว่า 4 หมื่นคนต่อวัน
          

นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้มีการพิจารณาเรื่องสำคัญ คือ ในกรณีที่รอการติดต่อกลับจาก สปสช. มีระเบียบการประเมินคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 หรือ UCEP Plus ซึ่งก่อนหน้านี้ ศบค.ขอความร่วมมือประชาชนว่า หากเป็นผู้ป่วยสีเขียวขอให้เข้าระบบ 1330 ตามปกติ สงวนเตียงสีเหลือง สีแดง สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นจริงๆ แต่ตอนนี้การพิจารณานิยามของคำว่า วิกฤติ ขอให้ทางโรงพยาบาลศึกษาให้ดี เพราะไม่ใช่เกณฑ์สีแดงเหมือนเดิมอีกต่อไป
          

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์ผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ระบบสาธารณสุขยังอยู่ในเกณฑ์ที่รองรับได้ ซึ่งในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันที่ 18 มี.ค.นี้ อาจมีการผ่อนคลายกิจการ กิจกรรม เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตได้ปกติและขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้