UCEP Plus รักษาโควิด-19ฟรี เช็คอาการป่วย เหลือง-แดง แบบไหนเข้าเกณฑ์บ้าง

09 มี.ค. 2565 | 17:15 น.
อัปเดตล่าสุด :10 มี.ค. 2565 | 00:20 น.
3.9 k

สาธารณสุข เปิดเกณฑ์อาการผู้ป่วยติดเชื้อโควิดกลุ่มสีเหลือง-แดง แบบไหนเข้าเกณฑ์ UCEP Plus ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง สรุปรายละเอียดครบที่นี่  

คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักเกณฑ์เงื่อนไขการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด  UCEP Plus โดยให้เริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.65 เป็นต้นไป ความคืบหน้าล่าสุด นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยเกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิดแบบ UCEP Plus ว่า หากผู้ป่วยติดเชื้อโควิดและมีการประเมินอาการแล้วว่า เป็นผู้ป่วยสีเหลือง และสีแดง สามารถเข้ารักษาที่โรงพยาบาลใดก็ได้ โดยประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เนื่องจากโรงพยาบาลจะเก็บค่าใช้จ่ายจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

 

ส่วนผู้ป่วยสีเขียว หรือผู้ป่วยโควิดที่มีอาการน้อยให้รักษาตามสิทธิที่มี เช่น สิทธิประกันสังคม เป็นต้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเช่นกัน ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวรักษาในระบบ Home Isolation (HI) Community Isolation (CI) หรือระบบ เจอ แจก จบ ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้สามารถขอใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาล หรือผู้รับผิดชอบได้

ด้าน ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวเสริมเกี่ยวกับเกณฑ์การประเมินคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต กรณีโรคโควิด-19 สำหรับ UCEP Plus หรือผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง หรือสีแดงว่า จะต้องมีผลตรวจ Antigen Test Kit (ATK) หรือ RT-PCR เป็นบวก ร่วมกับมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

 

1.มีภาวะหัวใจหยุดเต้น มีสิ่งอุดกั้นทางเดินหายใจ หายใจลำบากเฉียบพลัน มีภาวะช็อก มีภาวะโคม่า มีอาการซึมลงเมื่อเทียบกับความรู้สึกเดิมที่มีอยู่แล้ว มีการชักเมื่อแรกรับที่จุดเกิดเหตุ

 

2.มีอาการไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส มากกว่า 24 ชั่วโมง มีภาวะหายใจเร็วมากกว่า 25 ครั้งต่อนาทีในผู้ใหญ่ มีภาวะออกซิเจนในเลือดแรกรับโดยที่ยังไม่ได้ให้ออกซิเจน น้อยกว่า 94%

 

มีโรคประจำตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือมีความจำเป็นต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิดตามดุลยพินิจของแพทย์ กรณีในเด็ก มีอาการหายใจลำบาก ซึม ดื่มนมหรือทานอาหารน้อยลง หรือไปออกกำลังกาย ออกแรง แล้วมีภาวะพร่องออกซิเจนลดต่ำลงกว่าภาวะปกติ 3% หรือมีภาวะเสี่ยงสูงตามดุลยพินิจของแพทย์/ผู้คัดแยก

3.มีอาการหอบเหนื่อย หายใจเร็ว มีปัจจัยเสี่ยงต่ออาการรุนแรงหรือมีโรคร่วม เช่น กลุ่ม 608 โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคปอดเรื้อรังอื่นๆ มีภาวะไตเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคหัวใจแต่กำเนิด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่คุมไม่ได้ ภาวะอ้วน มีน้ำหนักเกิน 90 กิโลกรัม หญิงตั้งครรภ์ โรคตับแข็ง ภูมิคุ้มกันต่ำ เม็ดเลือดขาวน้อยกว่า 1,000 เซลล์ต่อไมโครลิตร หรืออื่น ๆ ตามแพทย์ที่ทำการรักษาเป็นผู้คัดแยก

 

โดยภาวะหรืออาการข้างต้นเป็นเกณฑ์ที่จะสามารถเข้าสู่เงื่อนไขของการรักษาได้ แต่เงื่อนไขการใช้บริการ UCEP Plus ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการสถานพยาบาลกำหนด

 

ส่วนขั้นตอน UCEP Plus คือ โทรศัพท์แจ้งสายด่วน 1669 จากนั้นมีการนำส่งโรงพยาบาลได้ทั้งรัฐและเอกชน โดยทางโรงพยาบาลจะมีการประเมินอาการและมีการรักษาเบื้องต้น หากเข้าเกณฑ์ก็จะใช้สิทธิ์ได้

 

กรณีที่ไม่เข้าเกณฑ์หรือเป็นผู้ป่วยสีเขียวก็จะไม่เข้าเงื่อนไข UCEP Plus เว้นแต่เข้าไปรักษาแล้วมีอาการแย่ลงเป็นผู้ป่วยสีเหลืองหรือสีแดง โดยทาง สพฉ. เตรียมศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิ์ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติเอาไว้ด้วย

 

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้สิทธิ์หรือเข้าสู่สถานพยาบาลแล้วไม่ได้รับสิทธิ์ทั้งที่ผู้ป่วยมองว่า ควรได้รับสิทธิ์ ให้ประสานมายังหมายเลข 02-872-1669 เพื่อขอรับข้อมูลและคำชี้แนะที่สามารถประสานกับโรงพยาบาลนั้นๆ ได้


สำหรับ UCEP Plus หากติดเชื้อโควิด-19 และเป็นผู้ป่วยสีเขียว ผู้ที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สามารถเดินทางไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลตามสิทธิได้เลย และสามารถเดินทางไปยังโรงพยาบาลปฐมภูมิที่ใดก็ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย


ส่วนกรณีที่เป็นผู้ป่วยสีเหลือง หรือสีแดง สามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกโรงพยาบาล ทั้งรัฐและเอกชน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทุกรายการ ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง ค่าอาหาร ยกเว้นรายการเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น ห้องพิเศษ อาหารพิเศษ เป็นต้น ยกเว้นอยากได้ห้องพิเศษ อาหารพิเศษ ต้องจ่ายเพิ่มเอง

 

นอกจากนี้ UCEP Plus ได้เพิ่มเติมกรณีหากช่วง 2-3 วันแรกผู้ป่วยมีอาการน้อย หรือเป็นผู้ป่วยสีเขียว แต่ต่อมาผู้ป่วยมีอาการหนักขึ้นกลายเป็นผู้ป่วยสีเหลือง หรือสีแดง หากโรงพยาบาลไม่มีศักยภาพในการรักษา สามารถส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่นทั้งของรัฐ และเอกชนได้ทันที ขอย้ำว่า การรักษาทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่าย หากประชาชนท่านใดไปรักษาแล้วพบว่า มีค่าใช้จ่าย สามารถแจ้งไปยังสายด่วน สปสช. โทร 1330 ได้ทันที