วัคซีนต้านโควิด19 ทำไมเด็ก 12-17 ต้องฉีดไฟเซอร์กระตุ้นเข็ม 3 เช็กเลย

04 มี.ค. 2565 | 03:11 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มี.ค. 2565 | 04:49 น.
1.7 k

วัคซีนต้านโควิด19 ทำไมเด็ก 12-17 ต้องฉีดไฟเซอร์กระตุ้นเข็ม 3 เช็กเลย หมอเฉลิมชัยเผยผลวิจัยต้องฉีดหลังจากที่ฉีดเข็มที่ 2 ไปแล้วนานกว่า 5 เดือน

วัคซีนต้านโควิด19 เป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญในการป้องกันโควิด-19 (Covid-19) โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่ต้องไปโรงเรียน ซึ่งปัจจุบันประเทศไทย อย.มีการอนุมัติให้ฉีดได้แล้วหลายกลุ่มอายุ

 

ล่าสุด น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

หนีไม่พ้น !! เด็กอายุ 12-17 ปี ต้องฉีดวัคซีนโควิดของ Pfizer กระตุ้นเข็มที่ 3
หลังจากที่วัคซีนของบริษัท Pfizer ได้รับการอนุมัติให้ฉีดในเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปได้ ก็มีคำถามมาโดยตลอดว่า

 

ปริมาณวัคซีนที่ลดลงเหลือเพียงหนึ่งในสามคือ 10 ไมโครกรัมนั้น จะมีผลต่อประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้ออาการปานกลาง และการนอนโรงพยาบาลมากน้อยอย่างไร

 

ในเบื้องต้นมีการศึกษาพบว่าประสิทธิผลในช่วงของการวิจัย (Efficacy) ได้ผลดีคือ มากกว่า 90%

 

แต่สำหรับประสิทธิผลในโลกแห่งความเป็นจริง (Effectiveness) ยังมีข้อมูลที่จำกัด
 

จึงได้มีการศึกษา ติดตาม และเก็บตัวเลขสถิติต่างๆ จนมีรายงานเพิ่มขึ้นว่า
จากกรณีศึกษาของ VISION Network ร่วมกับ US-CDCในกรณีผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางคือเข้ารับการรักษาฉุกเฉินจำนวน 39,217 ครั้ง 

 

และที่มีอาการหนักจนต้องนอนโรงพยาบาล 1699 รายในกลุ่มเด็กอายุ 5-17 ปี ในช่วง 9 เมษายน 2564 ถึง 29 มกราคม 2565 พบข้อสรุปที่น่าสนใจดังนี้

 

ในกรณีฉีดวัคซีน 2 เข็ม ประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการปานกลาง

 

อายุ 5-11 ปี 

 

  • ประสิทธิผลป้องกัน 46%

 

เด็กอายุ 12-17 ปี ต้องฉีดวัคซีนโควิดของ Pfizer กระตุ้นเข็มที่ 3

 

อายุ 12-15 ปี

 

  • ประสิทธิผล 83%

 

อายุ 16-17 ปี

 

  • ประสิทธิผล 76%
     

และเมื่อฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 นานกว่า 5 เดือน พบว่าประสิทธิผล

 

ในกลุ่มอายุ 12-15 ปี

 

  • ลดลงไปเหลือ 38%

 

กลุ่มอายุ 16-17 ปี

 

  • ลดลงไปเหลือ 46%

 

เมื่อมีการฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3

 

ให้กับกลุ่มอายุ 16-17 ปี

 

  • ทำให้ประสิทธิผลเพิ่มขึ้นจาก 46% เป็น 86%

 

ส่วนในกรณีประสิทธิผลต่อการป้องกันการนอนโรงพยาบาล

 

  • 5-11 ปี ประสิทธิผล 74% 

 

  • 12-15 ปี ประสิทธิผล 92% 

 

  • 16-17 ปี ประสิทธิผล 94%

 

ในกรณีที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 นานกว่า 5 เดือน

 

กลุ่มอายุ 12-15 ปี

 

  • ประสิทธิผลลดลงเหลือ 73%

 

กลุ่มอายุ 12-15 ปี

 

ประสิทธิผลลดลงเหลือ 73%

 

จึงพอสรุปได้ว่า

 

  • วัคซีน 2 เข็มในเด็กอายุ 12-17 ปี ป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการปานกลางได้ต่ำกว่า 50% เมื่อเวลาผ่านไป 5 เดือน

 

  • ถ้าฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 หลังจากผ่านเข็มที่ 2 ไปนาน 5 เดือนแล้ว ในกลุ่มอายุ 16-17 ปี ประสิทธิผลจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 86%

 

  • ประสิทธิผลในการป้องกันการนอนโรงพยาบาล สำหรับการฉีดวัคซีน 2 เข็มอยู่ที่ 92 และ 94% ถ้าผ่านไป 5 เดือน จะลดลงมาเหลือ 73 และ 88% ตามลำดับ

 

กล่าวคือเด็กอายุ 12-17 ปี มีความจำเป็นจะต้องฉีดวัคซีน Pfizer กระตุ้นเข็มที่ 3 หลังจากที่ฉีดเข็มที่ 2 ไปแล้วนานกว่า 5 เดือน