พยากรณ์อากาศ 4-6 ก.พ.ภาคเหนือมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลูกเห็บตกบางพื้นที่

03 ก.พ. 2565 | 00:42 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ก.พ. 2565 | 04:01 น.

พยากรณ์อากาศล่วงหน้า กรมอุตุนิยมวิทยา เผยสภาพอากาศวันที่ 4-6 ก.พ.ภาคเหนือมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคอีสาน กลาง ตะวันออก มวลอากาศเย็นเข้ามาปะทะ อุณหภูมิลด 1-3 องศา

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศวันนี้ - 8 กุมภาพันธ์ 2565 (พยากรณ์อากาศล่วงหน้า)โดยในวันที่ 4 – 6 ก.พ. 65 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณภาคเหนือมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกเป็นบางพื้นที่ ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง 

 

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร 

 

ในช่วงวันที่ 7 – 8 ก.พ. 65 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกยังคงปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณภาคเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกจะมีกำลังอ่อนลง  ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียสกับมีหมอกในตอนเช้า

ขณะที่สภาพอากาศในวันนี้  (วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565) ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นเป็นบางแห่ง โดยภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า 


ข้อควรระวัง 
วันที่ 4 – 6 ก.พ. 65 

  • ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง และประชาชนบริเวณภาคเหนือระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฟ้าผ่า โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้
  • ชาวเกษตกร ควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนอง

 

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศวันนี้ - 8 กุมภาพันธ์ 2565 (พยากรณ์อากาศล่วงหน้า)

ภาคเหนือ    
วันที่ 2 - 3 ก.พ. 65 

  • อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 10-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

วันที่ 4 - 6 ก.พ. 65 

  • มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

วันที่ 7 - 8 ก.พ. 65 

  • อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 9-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-34 องศาเซลเซียส  บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

 

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศวันนี้ - 8 กุมภาพันธ์ 2565 (พยากรณ์อากาศล่วงหน้า)

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วันที่ 2 - 3 ก.พ. 65 

  • อากาศเย็น โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-34 องศาเซลเซียส

วันที่ 4 – 6 ก.พ. 65 

  • อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15 - 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

วันที่ 7 – 8 ก.พ. 65 

  • อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 17 - 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียสบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศวันนี้ - 8 กุมภาพันธ์ 2565 (พยากรณ์อากาศล่วงหน้า)

 

ภาคกลาง
วันที่ 2 – 4 ก.พ. 65 

  • อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

วันที่ 5 – 8 ก.พ. 65

  • อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออก
วันที่ 2 – 3 ก.พ. 65

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

วันที่ 4 – 6 ก.พ. 65 

  • อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 19 - 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

วันที่ 7 – 8 ก.พ. 65 

  • อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1- 2 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)    

  • มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส

วันที่ 2 – 3 ก.พ. 65 

  • ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

วันที่ 4 – 8 ก.พ. 65 

  • ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
  • ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงมา : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)    
วันที่ 2 – 3 ก.พ. 65

  • มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

วันที่ 4 – 8 ก.พ. 65 

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

 

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศวันนี้ - 8 กุมภาพันธ์ 2565 (พยากรณ์อากาศล่วงหน้า)

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล    
วันที่ 2 – 4 ก.พ. 65 

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

วันที่ 5 – 8 ก.พ. 65 

  • อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.