"กาฬสินธุ์" เร่งตรวจกลุ่มเสี่ยงโอมิครอนรอบ 2 หลังยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง

04 ม.ค. 2565 | 10:57 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ม.ค. 2565 | 02:23 น.

กาฬสินธุ์เดินหน้าลงพื้นที่สุ่มตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงโอมิครอนจากคลัสเตอร์ที่เชื่อมโยงคู่สามีภรรยาที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และร้านกึ่งผับตลาดโรงสี ที่ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานวานนี้ (3 ม.ค.) พบ ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 40 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยจากคลัสเตอร์สายพันธุ์โคมิครอน ที่เชื่อมโยงกับสองสามีภรรยากลับจากต่างประเทศ(เบลเยี่ยม) และร้านอาหารกึ่งผับในตลาดโรงสี 11 คน นอกนั้นเป็นการระบาดเชื่อมโยงในสถานศึกษาที่อำเภอนามน 11 คน อำเภอห้วยเม็ก 6  คน ทำให้จังหวัดกาฬสินธุ์ มีผู้ป่วยโควิด-19 สะสม 10,925 คน และมีผู้เสียชีวิตสะสม 73 คน

 

นายแพทย์อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยวันนี้ (4 ม.ค.) ว่าทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ยังคงเดินหน้าตั้งจุดคัดครองตรวจหาเชื้อโควิด-19 รอบ 2 ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงคลัสเตอร์โอมิครอน ที่มีประวัติไปใช้บริการที่ตลาดโรงสี และเชื่อมโยงกับสองสามีภรรยากลับจากต่างประเทศและร้านอาหารกึ่งผับในตลาดดังกล่าว รวมทั้งกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสผู้ป่วยยืนยันที่ผ่านการตรวจรอบแรกไปแล้วเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ จากสถิติของกระทรงสาธารณสุข ณ วันที่ 2 ม.ค. ระบุว่า ในการตรวจหาสายพันธุ์ตั้งแต่เปิดประเทศ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564- 1 มกราคม 2565 พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนสะสม 1,551 ราย แบ่งเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 779 ราย และติดในประเทศ 772 ราย พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนแล้วใน 47 จังหวัด โดยจังหวัดที่พบมากสุด คือ กรุงเทพมหานคร 395 ราย กาฬสินธุ์ 195 ราย ชลบุรี 148 ราย ภูเก็ต 125 ราย และร้อยเอ็ด 119 ราย

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเป็นไปตามที่เคยคาดสถานการณ์ไว้ว่า จะพบการติดเชื้อโอมิครอนเพิ่มขึ้นหลังปีใหม่ ขณะนี้ประชาชนเริ่มกลับมาทำงานแล้ว ทาง สธ.ขอความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ ออกมาตรการให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (work from home) ให้มากที่สุด เพื่อประเมินสถานการณ์ประมาณ 2 สัปดาห์

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนตรวจ ATK เพื่อคัดกรองตนเอง โดยเฉพาะช่วงที่มีอาการระบบทางเดินหายใจ แม้ผลตรวจเป็นลบก็ต้องตรวจซ้ำ ในช่วง 1-3 วัน และย้ำว่า อยู่ร่วมกันในครอบครัวก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันตนเอง

 

นพ.ศุภกิจกล่าวย้ำว่า การป้องกันตัวเองอย่างสูงสุด (universal prevention) ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างและล้างมือ เป็นอาวุธสำคัญที่จะช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อ