โควิดชลบุรี ติดเชื้อรายใหม่ 280 ราย เสียชีวิต 2 รายไม่พบการฉีดวัคซีน
โควิดชลบุรี วันนี้ ( 4 พ.ย.) ติดเชื้อรายใหม่ 280 ราย เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้สูงอายุไม่พบประวัติฉีดวัคซีน ป่วยรักษาอยู่เหลือ 5,572 ราย รักษาหายสะสม 96,053 ราย
4 พ.ย. 64 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี (สสจ.ชลบุรี) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจำวัน วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 280 ราย ยอดป่วยสะสม 102,351 ราย กำลังรักษาเหลือ 5,572 ราย รักษาหายเพิ่ม 320 ราย รักษาหายสะสม 96,053 ราย เสียชีวิต 2 ราย เสียชีวิตสะสม 726 ราย
โดยอำเภอที่พบการติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก มีดังนี้
- อำเภอศรีราชา ยอดติดเชื้อรายใหม่ 73 ราย ป่วยสะสม 25,741 ราย
- อำเภอเมืองชลบุรี ยอดติดเชื้อรายใหม่ 70 ราย ป่วยสะสม 23,862 ราย
- อำเภอบางละมุง ยอดติดเชื้อรายใหม่ 24 ราย ป่วยสะสม 18,740 ราย
- อำเภอสัตหีบ ยอดติดเชื้อรายใหม่ 21 ราย ป่วยสะสม 4,991 ราย
- อำเภอพนัสนิคม ยอดติดเชื้อรายใหม่ 17 ราย ป่วยสะสม 4,764 ราย
อัพเดตการฉีดวัคซีนโควิดของประชากรในจังหวัด เข็ม 1 มีจำนวน 1,711,582 ราย ครอบคลุม 73.33% ของประชากร ประชากรกลุ่ม 608 ได้รับวัคซีนเข็ม 1 จำนวน 277,693 ราย ครอบคลุม 75.07%
รายละเอียดการติดเชื้อโควิด-19
1. คนที่พักอาศัยในจังหวัดระยอง เข้ามารักษาในจังหวัดชลบุรี 31 ราย สะสม 4,605 ราย และจังหวัดอื่นๆรวมสะสม 1,754 ราย
2. Cluster เขตพื้นที่ทหารเรือ อ.สัตหีบ 9 ราย สะสม 1,476 ราย
2.1 ข้าราชการทหารเรือ 3 ราย
2.2 ทหารเกณฑ์ 3 ราย
2.3 ลูกจ้างทหารเรือ 3 ราย
3. Cluster บริษัท สยาม เด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด อ.พานทอง 6 ราย สะสม 28 ราย
4. Cluster บริษัท บี ที โอโต้พาร์ต จำกัด อ.เมืองชลบุรี 4 ราย สะสม 20 ราย
5. อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 10 ราย
6. บุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย
7. ให้ประวัติเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงต่างจังหวัด
7.1 กทม. 2 ราย
7.2 จังหวัดระยอง 2 ราย
7.3 จังหวัดเชียงใหม่ 2 ราย
7.4 จังหวัดขอนแก่น 1 ราย
7.5 จังหวัดฉะเชิงเทรา 1 ราย
8. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
8.1 ในครอบครัว 78 ราย
8.2 จากสถานที่ทำงาน 51 ราย
8.3 บุคคลใกล้ชิด 19 ราย
9. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 15 ราย
10. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 45 ราย
รายละเอียดผู้เสียชีวิต
ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2 รายของวันนี้ (เพศชาย อายุ 67 ปี และเพศหญิง อายุ 79 ปี) เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันในครอบครัวของผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า มีปัจจัยเสี่ยงร่วมที่ทำให้ความรุนแรงของโรคที่นำไปสู่การเสียชีวิต คือ เป็นผู้สูงอายุ และการมีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคไตเรื้อรัง และทั้งสองรายไม่พบประวัติการรับวัคซีน ดังนั้น การฉีดวัคซีนจะช่วยป้องกันไม่ให้ป่วยหนัก ผู้สูงอายุควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 เนื่องจากบุคคลกลุ่มนี้มีอัตราป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 มากกว่ากลุ่มอื่น