บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน เติมเงินให้ผู้สูงอายุวันนี้สูงสุด 1,000 บาท

03 ก.ย. 2564 | 00:09 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ก.ย. 2564 | 20:18 น.
16.0 k

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน กรมบัญชีกลาง เติมเงินให้ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 4.7 ล้านคน สูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท รีบเช็คด่วน

จากกรณีที่มติคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ เมื่อ 30 กรกฎาคม 2564 เห็นชอบการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐจากกองทุนผู้สูงอายุ

 

ล่าสุดวันนี้ 3 ก.ย. กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้เติมเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิ จำนวน 4.7 ล้านคน ตามอัตราการจ่ายเดิมดังนี้

1. ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับความช่วยเหลือ 100 บาทต่อเดือน

2.ผู้สูงอายุที่มีรายได้เกิน 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับความช่วยเหลือ 50 บาทต่อเดือน โดยจะจ่ายย้อนหลัง ดังนี้

 

  • ปีงบบประมาณ พ.ศ. 2563 จ่าย 4 เดือน (มิถุนายน - กันยายน 2563)
  • ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จ่าย 6 เดือน แบบเดือนเว้นเดือน (ตุลาคม และธันวาคม 2563 กุมภาพันธ์ เมษายน มิถุนายน และสิงหาคม 2564)
  • สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กรมบัญชีกลาง โทร.022706400 หรือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร.02 1092345 ในวัน เวลาราชการ

 

 

ก่อนหน้านี้ นางแก้วกาญจน์ วสุพรพงศ์ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง และ  ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เนื่องจากคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ มีมติเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เห็นชอบการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐจากกองทุนผู้สูงอายุ โดยกรมบัญชีกลางทำหน้าที่ในการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิ ตามอัตราการจ่ายเดิม คือ ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับความช่วยเหลือ 100 บาทต่อเดือน และผู้สูงอายุที่มีรายได้เกิน 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับความช่วยเหลือ 50 บาทต่อเดือน 

 

 

 “สำหรับเงื่อนไขของผู้มีสิทธิ จะต้องเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป ก่อนเดือนที่ได้รับสิทธิเงินสงเคราะห์ฯ โดยกรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิ ในวันที่ 3 กันยายน 2564 ซึ่งวงเงินดังกล่าว สามารถใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่อง EDC) หรือแอปพลิเคชั่น “ถุงเงินประชารัฐ” ที่ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น หรือร้านค้าประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง รวมทั้งสามารถถอนเป็นเงินสดได้ที่ตู้ ATM ของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย หรือสาขาของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย” โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว

วันที่ 1 ก.ย. โอนเงินแล้วดังนี้

 

รายการที่หนึ่ง

  • รายการซื้อของกินของใช้จำนวน 200 หรือ 300 บาท ใช้ได้เฉพาะร้านค้าประชารัฐเท่านั้น
  • คนละ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้ที่มีรายได้ 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
  • คนละ 300 บาทต่อเดือน แบ่งตามเกณฑ์รายได้ ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี
  • ต้องใช้จ่ายให้หมดทุกๆเดือนไม่สบทมเดือนถัดไป

 

รายการที่สอง

  • เงินเยียวยาพิเศษช่วยเหลือบัตรสวัสดิการทั่วประเทศได้คนละ 200 บาท ใช้ซื้อสินค้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ ร้านค้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ไปใช้สิทธิยื่นบัตรและสแกน ณ ตอนนี้ เงินเหลือเท่าไหร่ เงินซื้อสองมีสองส่วน
  • วันที่ 1 ก.ค. 64 จำนวน 200 บาท
  • วันที่ 1 ส.ค.64 จำนวน 200 บาท
  • วันที่ 1 ก.ย.64 จำนวน 200 บาท
  • วันที่ 1 ต.ค.64 จำนวน 200 บาท
  • วันที่ 1 พ.ย64 จำนวน 200 บาท
  • วันที่ 1 ธ.ค.64 จำนวน 200 บาท

 

ที่มา: กรมบัญชีกลาง