โควิดวันนี้ 10 จังหวัดติดเชื้อรายใหม่สูงสุด มี 2 จังหวัดเพิ่มเกิน 1 พันราย

30 ส.ค. 2564 | 13:11 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ส.ค. 2564 | 23:36 น.
1.6 k

ข่าวโควิดวันนี้ เช็กรายชื่อจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก อันดับหนึ่ง กทม. 3,771 ราย มี 2 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 1,000 ราย "กรงเทพฯ-สมุทรปราการ"

ข่าวโควิดวันนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวนจันทร์ที่ 30 สิงหาคม 2564 ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15,972 ราย ประกอบด้วย

  • ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 14,137 ราย
  • จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 1,544 ราย 
  • จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 280 ราย
  • ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 11 ราย
  • เสียชีวิตเพิ่ม 256 ราย

โควิดวันนี้ 10 จังหวัดติดเชื้อรายใหม่สูงสุด มี 2 จังหวัดเพิ่มเกิน 1 พันราย

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 1,190,063 ราย รักษาตัวอยู่ 176,137 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 1,002,527 ราย เพิ่มขึ้น 17,281 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม(ตั้งแต่ปี 63) 11,305 ราย

10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด

1.กรุงเทพมหานคร 3,771 ราย สะสม(1 เม.ย.-30 ส.ค.64) 275,587 ราย

2.สมุทรปราการ 1,055 ราย สะสม(1 เม.ย.-30 ส.ค.64) 78,515 ราย

3.สมุทรสาคร 966 ราย สะสม(1 เม.ย.-30 ส.ค.64) 73,203 ราย

4.ราชบุรี 779 ราย สะสม(1 เม.ย.-30 ส.ค.64) 17,012 ราย

5.ชลบุรี 747 ราย สะสม(1 เม.ย.-30 ส.ค.64) 61,680 ราย

6.ระยอง 518 ราย สะสม(1 เม.ย.-30 ส.ค.64) 17,498 ราย

7.นครราชสีมา 406 ราย สะสม(1 เม.ย.-30 ส.ค.64) 18,107 ราย

8.พระนครศรีอยุธยา 405 ราย สะสม(1 เม.ย.-30 ส.ค.64) 19,789 ราย

9.บุรีรัมย์ 389 ราย สะสม(1 เม.ย.-30 ส.ค.64) 13,202 ราย

10.นนทบุรี 365 ราย สะสม(1 เม.ย.-30 ส.ค.64) 43,573 ราย

โควิดวันนี้ 10 จังหวัดติดเชื้อรายใหม่สูงสุด มี 2 จังหวัดเพิ่มเกิน 1 พันราย

ผู้ติดเชื้อในประเทศรายสัปดาห์ 5 อันดับแรก

โควิดวันนี้ 10 จังหวัดติดเชื้อรายใหม่สูงสุด มี 2 จังหวัดเพิ่มเกิน 1 พันราย

ปรับมาตรการให้เหมาะสมกับแนวทางดำเนินชีวิตวิถีใหม่

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.กล่าวว่า กล่าวว่า ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 32 ที่เพิ่งประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวานนี้ ไม่ใช่การปลดล็อกหรือผ่อนคลาย แต่เป็นการปรับมาตรการให้เหมาะสมกับแนวทางการดำเนินชีวิตตามวิถีใหม่ (new Normal) เพื่อให้สามารถเผชิญหน้ากับโควิด-19 ได้เหมือนกับในปัจจุบันที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ แม้จะมีการแพร่ระบาดของโรควัณโรค หรือโรคไข้หวัดใหญ่อยู่ เนื่องจากการใช้มาตรการล็อคดาวน์นั้นยังคงมีใช้เฉพาะในบางประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนน้อย

โควิดวันนี้ 10 จังหวัดติดเชื้อรายใหม่สูงสุด มี 2 จังหวัดเพิ่มเกิน 1 พันราย

โดยจะมีการดำเนินมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 แนวใหม่ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างปลอดภัย (Smart Control and Living with Covid-19) นั้น ภาครัฐจะเร่งรัดกำหนดมาตรการรองรับที่สามารถปฏิบัติได้จริง โดยต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้การปรับมาตรการในครั้งนี้ ไม่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น รวมทั้งการกำกับดูแลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งในส่วนของภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ผู้จัดกิจกรรม จะมีแนวทางตามมาตรการ COVID-Free Setting ส่วนประชาชนทั่วไปก็ขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการครอบจัรวาล (Universal Prevention)

"ในเดือนกันยายนจะเป็นทดสอบมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 แนวใหม่ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างปลอดภัย ตลอดทั้งเดือนว่าจะได้ผลหรือไม่" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

สำหรับข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 32 ส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิม แต่ปรับให้บางกิจการ/กิจกรรมสามารถดำเนินการได้ เช่น ให้ร้านอาหารติดแอร์สามารถรับลูกค้าได้ 50% ส่วนร้านอาหารแบบเปิดรับลูกค้าได้ 75% แต่ห้ามจำหน่ายสุราเช่นเดิม, เพิ่มจำนวนคนที่มาร่วมกลุ่มจัดกิจกรรมได้มากขึ้น แต่ไม่ใช่เพื่อการประชุมหรืองานเลี้ยง, การเตรียมความพร้อมในเรื่องยา เวชภัณฑ์ และโรงพยาบาล, ให้เปิดบริการสนามกีฬากลางแจ้งได้ไม่เกิน 2 ทุ่ม, ให้ห้างสรรพสินค้าเปิดบริการได้ถึง 2 ทุ่ม, ให้ระบบขนส่งสาธารณะจำกัดผู้โดยสารไม่เกิน 75%, ให้ ศปก.ศบค.ประเมินสถานการณ์เพื่อปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมแล้วเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการ  เป็นต้น

 

ที่มา : ศูนย์ข้อมูล COVID-19