ถอดความสำเร็จผู้นำรุ่นใหม่ "ซีพี ออลล์" ในโครงการ "CONNEXT ED"

24 ก.ย. 2561 | 12:12 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ย. 2561 | 02:30 น.
"ซีพีออลล์" ส่งผู้นำรุ่นใหม่ สานต่อโครงการ "คอนเน็กซ์ อีดี" ระยะที่ 2 หลังภาคเอกชน 21 องค์กร ร่วมเสริมทัพ ส่งผู้นำรุ่นใหม่กว่า 1,000 คน พิชิตภารกิจลงพื้นที่โรงเรียนประชารัฐกว่า 4,600 แห่งทั่วประเทศ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กรวิทย์ ไชยสุ อาจารย์ประจำคณะนวัตกรรมการจัดการเกษตร สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) ในฐานะผู้นำรุ่นใหม่ หรือ School Partners รุ่นที่ 1 ของซีพี ออลล์ เล่าว่า ได้อาสาเข้าร่วมโครงการไปดูแลโรงเรียนในพื้นที่บ้านเกิด จ.เชียงใหม่ และได้รับผิดชอบเข้าไปเป็นที่ปรึกษาแบบ "เพื่อนคู่คิด มิตรคู่ ผอ." ให้แก่ 3 โรงเรียน โดย 1 ใน 3 โรงเรียนที่รับผิดชอบ ถือว่าเป็น Best Practice หรือเป็นตัวอย่างของโรงเรียนที่ดำเนินโครงการแล้วประสบความสำเร็จ จนได้รับรางวัล คือ โรงเรียนวัดกู่คำ (เมธาวิสัยคณาทร) อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่


ร.ร.วัดกู่คำ 3

โครงการที่ประสบความสำเร็จในโรงเรียนดังกล่าว ได้แก่ 1.โครงการนาข้าววิถีพอเพียง ให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติการปลูกข้าวในบริเวณนาข้าวที่อยู่ข้าง ๆ โรงเรียน พร้อมทั้งดึงคนในชุมชนและหมู่บ้านใกล้เคียงเข้ามามีส่วนร่วม 2.โครงการ One Class One Product ให้นักเรียนแต่ละห้องนำสิ่งที่ได้รับจากโครงการแรกมาต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่ม โดยใช้นวัตกรรมผ่านการเรียนรู้ด้านสะเต็มศึกษา (STEM) เกิดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ข้าวแต๋นน้ำสมุนไพร , กระดาษจากฟางข้าว , หีบห่อกระดาษฟางข้าว , ข้าวต้มมัดสมุนไพร เป็นต้น จากนั้นก็นำไปขายที่ "กาดหมั้วคัวฮอม" โดยใช้พื้นที่ในโรงเรียนให้นักเรียนได้ทดลองขาย พร้อมทั้งเชิญผู้ปกครองและคนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ทำให้โครงการได้รับรางวัลในระดับเขตพื้นที่การศึกษา

"แบ่งการทำงานออกเป็น 3 ระยะ คือ ก่อนลงพื้นที่ ระหว่างลงพื้นที่ และหลังลงพื้นที่ และยึดหลัก PDCA คือ 1.Plan หรือวางแผน , 2.Do หรือ ปฏิบัติ , 3.Check หรือตรวจสอบ และ 4.Act หรือดำเนินการให้ เหมาะสมเพื่อให้การทำงานราบรื่น โครงการออกมาเป็นรูปธรรม ลงมือปฏิบัติได้จริง และที่สำคัญ คือ โรงเรียนสามารถดำเนินการขับเคลื่อนกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเรื่องการศึกษาต้องพัฒนาอย่างยั่งยืน" ผศ.ดร.กรวิทย์ ย้ำ


ร.ร.กู่คำ 6

ทั้งนี้ การดำเนินงานในระยะที่ 2 ผศ.ดร.กรวิทย์ จะทำหน้าที่เป็น Coaching หรือผู้ที่คอยให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ เป็นที่ปรึกษาให้กับ School Partners รุ่นใหม่ ควบคู่กับการดูแลโรงเรียนเพิ่มเติมอีก 2 แห่งใน จ.ลำพูน โดยตั้งใจว่าจะพยายามเชื่อมโยงผู้บริหารและครูของโรงเรียนในทั้ง 2 ร ะยะเข้าหากัน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน


ร.ร.กู่คำ 5

ด้าน นายธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวว่า ซีพี ออลล์ ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคนมาอย่างต่อเนื่อง เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาการศึกษาอย่างยั่งยืน เพื่อประโยชน์ของสังคมชุมชนและประเทศ จึงได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการคอนเน็กซ์ อีดี ระยะที่ 1 จนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จึงเดินหน้าเข้าร่วมโครงการระยะที่ 2 โดยเปิดโอกาสให้พนักงานในกลุ่มบริษัท รวมไปถึงคณาจารย์สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาเพื่อสังคมของ ซีพี ออลล์ เข้าไปทำหน้าที่ผู้นำรุ่นใหม่กว่า 80 คน เพื่อนำองค์ความรู้ ความสามารถ ไปต่อยอดสร้างสรรค์ก่อให้เกิดประโยชน์แก่โรงเรียนประชารัฐกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ

"ซีพี ออลล์ มีหน่วยงานกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้เรามีบุคลากรและเครือข่ายที่มีความรู้ ความเข้าใจ บริบทของแต่ละพื้นที่ จึงสามารถส่งผู้นำรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพเหมาะสมกับพื้นที่นั้น ๆ เข้าไปช่วยโรงเรียนในการเป็นเพื่อนคู่คิดวางแผนพัฒนาเสริมจุดแข็ง ลดจุดอ่อน เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถ มีทักษะการใช้ชีวิตอย่างรอบด้าน ซึ่งโครงการในระยะที่ผ่านมาประสบความสำเร็จด้วยดี" นายธานินทร์ กล่าว


ร.ร.กู่คำ 4

ทั้งนี้ ผู้นำรุ่นใหม่ทุกคนล้วนผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการ ก่อนลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริง ร่วมกับผู้บริหารและครูอย่างเข้มข้น จึงเชื่อมั่นว่า ผู้นำรุ่นใหม่จะเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์โครงการให้ประสบความสำเร็จได้

อีกหนึ่งผู้นำรุ่นใหม่ นางศิริพร จันประภา เจ้าหน้าที่พัฒนาธุรกิจสำนักปฏิบัติการ Re3 บมจ.ซีพี ออลล์ ในฐานะ School Partners รุ่นที่ 2 ที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น เล่าว่า ที่อาสามาทำงานในโครงการนี้ เพราะมีความผูกพันกับบ้านเกิดและเคยเป็นครูมาก่อน จึงเลือกไปพัฒนาการศึกษาโรงเรียนประชารัฐใน อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ได้แก่ โรงเรียนวัดคลองหลวงแพ่งและโรงเรียนสุเหร่า 20 จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าทั้ง 2 โรงเรียนอยู่ในพื้นที่กันดาร ห่างไกลตัวเมืองมาก และที่สำคัญ ยังขาดแคลนเครื่องมือสื่อสารเทคโนโลยีทันสมัยอีกด้วย


ร.ร.กู่คำ 2

"ส่วนตัวเป็นคนชอบเข้าร่วมกิจกรรมอาสาของบริษัทมาโดยตลอด คาดหวังที่จะเห็นสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ในฐานะที่เคยเป็นครู พอได้มาร่วมโครงการ ความรู้สึกอยากถ่ายทอดประสบการณ์ก็ยิ่งทวีคูณ ล่าสุด ได้มีโอกาสไปเยือนทั้ง 2 โรงเรียนที่จะลงไปพัฒนา ก็ได้รับการต้อนรับที่แสนอบอุ่นจากผู้อำนวยการคุณครู และเด็ก ๆ ที่มองเราเป็นคุณครูอีกหนึ่งคน ความตั้งใจในครั้งนี้ เราอยากพัฒนาในเรื่องของการเรียนการสอน ด้านเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ โดยเน้นภาษาอังกฤษ อยากให้เขาได้เรียนรู้ร่วมกันอย่างทั่วถึง ยิ่งในโลกยุคใหม่ เราต้องเท่าทันเหตุการณ์ รวมทั้งรวดเร็วและแม่นยำด้วย เพราะใคร ๆ ก็อยากเห็นการศึกษาไทยก้าวทันโลกอย่างเท่าเทียม" ศิริพร กล่าว

ทั้งหมดถือเป็นมิติใหม่ในการพัฒนาการศึกษาไทยผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันยกระดับขีดความสามารถของเยาวชน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองของเราต่อไป

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว