นายธนศักดิ์ กฤษณะเศรณี รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด (XD) กล่าวว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การลงทุนในโทเคนดิจิทัลในประเทศไทยได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างมาก ด้วยความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล รวมถึงการสนับสนุนของทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบ เพื่อสร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน
ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริมให้โทเคนดิจิทัลกลายเป็นสินทรัพย์ยอดนิยมในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วโลกสนใจเข้ามาลงทุน ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการลงทุนโทเคนดิจิทัลที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย”
"ในอดีตเงินส่วนแบ่งของกำไรหรือผลประโยชน์อื่นใดของผู้ถือครองโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนต้องถูก หักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 15 รวมทั้งผู้มีเงินได้ต้องนำรายได้ดังกล่าวไปรวมเพื่อคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาซึ่งเท่ากับว่าเสียภาษีถึงสองต่อ แต่ในปัจจุบันตามประมวลกฎหมายรัษฎากรได้กำหนดให้กำไรหรือผลประโยชน์อื่นใด ของผู้ถือโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนได้รับการยกเว้นในส่วนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน "
นอกจากนี้นักลงทุนที่ดำเนินการผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม โดยอนุญาตให้นักลงทุนนำผลขาดทุนจากการลงทุนในโทเคนดิจิทัลมาหักลบกับกำไรในปีภาษีเดียวกันได้ ช่วยให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนอย่างเต็มจำนวน ทำให้โทเคนดิจิทัลเป็นทางเลือกการลงทุนที่มีความคุ้มค่า และสร้างแรงจูงใจให้กล้าลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งทำให้ทำธุรกรรมได้สะดวกและมีความชัดเจนมากขึ้น ลดข้อกังวลด้านภาษีและช่วยสร้างความมั่นใจในการลงทุนในระยะยาว
“โทเคนดิจิทัลเป็นทางเลือกการลงทุนที่ทันสมัยและมีศักยภาพสูง เนื่องจากใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ที่ทำให้ธุรกรรมมีความปลอดภัย โปร่งใส และตรวจสอบได้ง่าย นักลงทุนสามารถมั่นใจในกระบวนการทำงานของระบบโทเคนดิจิทัลที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการทุจริตและข้อผิดพลาดทางการเงิน ทำให้หลายอุตสาหกรรมกำลังนำโทเคนดิจิทัลไปใช้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกรรม ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น การเงิน อสังหาริมทรัพย์ และการท่องเที่ยว”
นอกจากนี้ ความนิยมในโทเคนดิจิทัลยังได้รับแรงกระตุ้นจากการคาดการณ์ของบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำ เช่น Boston Consulting Group (BCG) ที่ระบุว่า ตลาดโทเคนดิจิทัลทั่วโลกจะเติบโตจนมีมูลค่าสูงถึง 10% ของ GDP โลกภายในปี 2030 คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 86 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งโอกาสเปิดกว้างสำหรับนักลงทุนที่มีความพร้อมและเข้าใจตลาด
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงที่นักลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยความเสี่ยงหลักคือ ความผันผวนของราคาที่อาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย และนักลงทุนควรมีการศึกษาเกี่ยวกับโทเคนดิจิทัลแต่ละประเภทอย่างถี่ถ้วน รวมถึงประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนในแต่ละตัว นอกจากนี้ การติดตามข่าวสารและกฎเกณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอจะช่วยให้นักลงทุนสามารถปรับตัวและรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“การผสมผสานระหว่างนโยบายสนับสนุนและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทำให้โทเคนดิจิทัลกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว ในอนาคตโทเคนดิจิทัลจะไม่ได้เป็นเพียงสินทรัพย์เพื่อการลงทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลก โดยบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและพัฒนาโอกาสการลงทุนในโทเคนดิจิทัล เพื่อช่วยให้นักลงทุนไทยและต่างชาติสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ที่มีศักยภาพนี้ได้อย่างมั่นใจและยั่งยืน” นายธนศักดิ์ กล่าวปิดท้าย