ไขข้อสงสัย "การซื้อหุ้นคืน" คืออะไร และทำไมจึงมีความสำคัญ

23 มี.ค. 2568 | 08:00 น.

ทำไมบริษัทถึงซื้อหุ้นคืน? กลยุทธ์นี้ช่วยเพิ่มมูลค่าผู้ถือหุ้น กลยุทธ์ที่บริษัทใช้บริหารมูลค่าหุ้น ที่มีผลกระทบต่อโครงสร้างเงินทุนและผู้ถือหุ้น

ในโลกของการลงทุนที่มีการแข่งขันสูง “การซื้อหุ้นคืน” หรือ Stock Repurchase ได้กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่บริษัทจดทะเบียนทั่วโลกนำมาใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น แต่นักลงทุนสงสัยไหมว่า ทำไมบริษัทถึงต้องซื้อหุ้นของตัวเองคืน และการกระทำเช่นนี้ส่งผลอย่างไรต่อนักลงทุนอย่างไร

การซื้อหุ้นคืน คืออะไร และทำไมจึงสำคัญ
ลองนึกภาพว่านายเอเป็นเจ้าของร้านพิซซ่าที่มีหุ้นส่วน 10 คน แต่ละคนถือหุ้น 10% ของร้าน วันหนึ่งนายเอ ตัดสินใจซื้อหุ้นคืนจากเพื่อนร่วมหุ้น 2 คน โดยได้ซื้อหุ้น 20% ของร้านกลับมา ผลลัพธ์คือตอนนี้นายเอ มีสัดส่วนความเป็นเจ้าของในร้านมากขึ้น และกำไรที่ได้จากการขายพิซซ่าก็มากขึ้นด้วย

นี่คือแนวคิดพื้นฐานของการซื้อหุ้นคืน หรือ Stock Repurchase ซึ่งเป็นกระบวนการที่บริษัทซื้อหุ้นของตัวเองกลับคืนมาจากกระดานหุ้นหรือผู้ถือหุ้นโดยตรง โดยเหตุผลสำคัญในการซื้อหุ้นคืน มีดังนี้

การเพิ่มมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น

  • เพิ่มราคาหุ้น การลดจำนวนหุ้นที่หมุนเวียนในตลาดทำให้หุ้นที่เหลือแต่ละหุ้นมีมูลค่าสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น
  • ปรับปรุงตัวชี้วัดทางการเงิน การซื้อหุ้นคืนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ เช่น กำไรต่อหุ้น (EPS) ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) และผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE)
  • สื่อถึงความเชื่อมั่น การซื้อหุ้นคืนสามารถส่งสัญญาณให้ตลาดเห็นว่าผู้บริหารเชื่อว่าหุ้นของบริษัทมีมูลค่าต่ำกว่าที่ควร ซึ่งอาจเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน

การบริหารจัดการทางการเงิน

  • คืนเงินสดส่วนเกิน บริษัทใช้การซื้อหุ้นคืนเป็นทางเลือกแทนการจ่ายเงินปันผลในการคืนเงินสดส่วนเกินให้ผู้ถือหุ้น โดยเฉพาะเมื่อมีกำไรสะสมและสภาพคล่องส่วนเกิน
  • ประสิทธิภาพทางภาษี การซื้อหุ้นคืนมักถูกมองว่ามีประสิทธิภาพทางภาษีมากกว่าการจ่ายเงินปันผลในการคืนผลกำไรให้ผู้ถือหุ้น
  • จัดการโครงสร้างเงินทุน การซื้อหุ้นคืนช่วยให้บริษัทสามารถปรับโครงสร้างเงินทุน ซึ่งอาจเพิ่มอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน

การพิจารณาเชิงกลยุทธ์

  • กลยุทธ์เชิงป้องกัน การซื้อหุ้นคืนสามารถใช้เป็นยุทธวิธีป้องกันการเข้าครอบงำกิจการแบบไม่เป็นมิตร โดยการลดจำนวนหุ้นที่มีอยู่ในตลาด
  • รวมศูนย์ความเป็นเจ้าของ การซื้อหุ้นคืนช่วยรวมศูนย์ความเป็นเจ้าของโดยการลดจำนวนหุ้นที่หมุนเวียน
  • ชดเชยการลดค่าของหุ้น บริษัทอาจซื้อหุ้นคืนเพื่อชดเชยผลกระทบจากการลดค่าของหุ้นที่เกิดจากโครงการให้สิทธิซื้อหุ้นแก่พนักงาน
  • ความยืดหยุ่นสำหรับแผนในอนาคต หุ้นที่ซื้อคืน สามารถนำกลับมาออกใหม่ในภายหลังเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น ค่าตอบแทนพนักงานหรือการควบรวมกิจการ

ดังนั้น การซื้อหุ้นคืนจึงไม่ใช่แค่การซื้อหุ้นกลับมาเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อมูลค่าบริษัท โครงสร้างทางการเงิน และความมั่งคั่งของผู้ถือหุ้นได้อย่างมีนัยสำคัญด้วย

ผลกระทบการซื้อหุ้นคืนของต่อนักลงทุน

ข้อดีของการซื้อหุ้นคืน

  • เพิ่มมูลค่าการถือครองหุ้น เมื่อบริษัทซื้อหุ้นคืน สัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนที่เหลืออยู่จะเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ เสมือนว่านักลงทุนได้เป็นเจ้าของบริษัทในสัดส่วนที่มากขึ้นโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม และจะได้รับผลตอบแทนสูงขึ้น หากราคาหุ้นของบริษัทที่ประกาศซื้อหุ้นคืนปรับสูงขึ้นหลังจากการประกาศ
  • ผลตอบแทนที่ยืดหยุ่นกว่าเงินปันผล การซื้อหุ้นคืนให้อิสระแก่นักลงทุนในการเลือกรับผลตอบแทน โดยสามารถเลือกขายหุ้นเพื่อรับกำไรเมื่อต้องการ หรือถือต่อไปเพื่อรับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหุ้นในระยะยาว

ข้อควรระวังของการซื้อหุ้นคืน

  • ความเสี่ยงจากการประเมินมูลค่าผิดพลาด หากบริษัทซื้อหุ้นคืนในราคาที่สูงเกินไป อาจส่งผลเสียต่อมูลค่าในระยะยาว โดยเฉพาะบริษัทที่ซื้อหุ้นคืนในช่วงที่ราคาหุ้นสูงเกินจริงมักจะให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าตลาดในระยะยาว
  • ลดเงินลงทุนในการเติบโต การใช้เงินสดซื้อหุ้นคืนอาจลดโอกาสในการลงทุนเพื่อการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการเติบโตของบริษัทในระยะยาว
  • ผลกระทบต่อสภาพคล่อง ในบางกรณี โดยเฉพาะสำหรับหุ้นขนาดเล็ก การซื้อหุ้นคืนอาจทำให้การซื้อขายหุ้นในตลาดมีปริมาณน้อยลง ส่งผลให้ราคาหุ้นมีความผันผวนมากขึ้น

ดังนั้น นักลงทุนควรวิเคราะห์เหตุผลและผลกระทบของการซื้อหุ้นคืนอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน คำถามสำคัญที่ควรถามตัวเอง คือ ทำไมบริษัทถึงเลือกซื้อหุ้นคืนแทนที่จะนำเงินไปลงทุนเพื่อการเติบโต และการซื้อหุ้นคืนนี้สร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาวจริงหรือไม่

การใช้ข้อมูลการซื้อหุ้นคืนในการตัดสินใจลงทุน

สำหรับนักลงทุน การเข้าใจและวิเคราะห์ข้อมูลการซื้อหุ้นคืน สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการตัดสินใจลงทุน โดยวิธีที่สามารถใช้ข้อมูลการซื้อหุ้นคืนในการวิเคราะห์หุ้น มีดังนี้

  • วิเคราะห์แนวโน้มการซื้อหุ้นคืน ดูความสม่ำเสมอและปริมาณการซื้อคืน บริษัทที่ซื้อหุ้นคืนอย่างสม่ำเสมอมักสะท้อนถึงความมั่นคงทางการเงินและความเชื่อมั่นของผู้บริหาร นอกจากนี้ ให้เปรียบเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันเพื่อดูว่าบริษัทที่สนใจลงทุนมีนโยบายการซื้อหุ้นคืนที่แข็งแกร่งเพียงใด
  • ประเมินราคาที่บริษัทซื้อคืน หากบริษัทซื้อคืนที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง อาจแสดงถึงการบริหารที่ดีและเป็นสัญญาณซื้อสำหรับนักลงทุน ในทางกลับกัน ระวังการซื้อคืนที่ราคาสูงเกินไป ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการบริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพ
  • พิจารณาผลกระทบต่อโครงสร้างทางการเงิน ตรวจสอบว่าการซื้อหุ้นคืนส่งผลอย่างไรต่ออัตราส่วนหนี้สินต่อทุนและสภาพคล่องของบริษัท การซื้อหุ้นคืนที่มากเกินไปอาจทำให้บริษัทมีความเสี่ยงทางการเงินสูงขึ้น
  • วิเคราะห์เหตุผลในการซื้อหุ้นคืน พยายามเข้าใจว่าทำไมบริษัทถึงเลือกซื้อหุ้นคืน เป็นเพราะต้องการเพิ่มมูลค่าหุ้น หรือเพื่อปกป้องราคาหุ้นจากการปรับลดลง และสอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทหรือไม่
  • ดูผลกระทบต่อ EPS และอัตราส่วนทางการเงินอื่น ๆ เปรียบเทียบกำไรต่อหุ้น (EPS) ก่อนและหลังการซื้อหุ้นคืน รวมถึงพิจารณาผลกระทบต่อผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) และผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) การเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักลงทุน
  • ตรวจสอบประวัติการจ่ายเงินปันผลควบคู่กัน บริษัทที่ทั้งซื้อหุ้นคืนและจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอมักเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักลงทุน แสดงถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด
  • ติดตามข่าวสารและการประกาศของบริษัท ให้ความสนใจกับการประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนใหม่หรือการขยายโครงการเดิม รวมถึงคำอธิบายของผู้บริหารเกี่ยวกับเหตุผลในการซื้อหุ้นคืน สิ่งเหล่านี้อาจให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับมุมมองของผู้บริหารต่ออนาคตของบริษัท

ผลกระทบของการซื้อหุ้นคืนต่อราคาหุ้น

ผลกระทบต่อราคาในทันที
การเพิ่มขึ้นของราคาในระยะสั้น เมื่อบริษัทประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน มักส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นในทันที จากการศึกษาพบว่า บริษัทที่เริ่มโครงการซื้อหุ้นคืนขนาดเล็กจะเห็นราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2 - 3% ในวันที่ประกาศ ในขณะที่การซื้อคืนขนาดใหญ่ (เกี่ยวข้องกับหุ้นประมาณ 15% หรือมากกว่า) อาจทำให้ราคาเพิ่มขึ้นได้ถึง 16% โดยเฉลี่ย

การรับรู้ของตลาด การประกาศซื้อหุ้นคืนมักถูกตีความเป็นสัญญาณเชิงบวกจากตลาด แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารเชื่อว่าหุ้นมีมูลค่าต่ำกว่าที่ควร การรับรู้นี้สามารถผลักดันให้เกิดความต้องการซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นต่อไป

ผลกระทบต่อราคาในระยะยาว
การลดลงของอุปทานหุ้น การลดจำนวนหุ้นที่หมุนเวียนในตลาดสามารถสร้างแรงกดดันให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นตามหลักอุปสงค์อุปทาน

การปรับปรุงอัตราส่วนทางการเงิน การซื้อหุ้นคืนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของตัวชี้วัดทางการเงินที่สำคัญ เช่น กำไรต่อหุ้น (EPS) และผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) ซึ่งอาจนำไปสู่การประเมินมูลค่าที่สูงขึ้นในระยะยาว

ผลกระทบต่ออัตราส่วน P/E Ratio การซื้อหุ้นคืนสามารถลดอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) ของบริษัท ทำให้หุ้นดูน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่เน้นมูลค่า

การซื้อหุ้นคืน เป็นกลยุทธ์ทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น หากนักลงทุนเข้าใจมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกโครงการซื้อหุ้นคืนจะประสบความสำเร็จเสมอไป จึงควรพิจารณาว่าการซื้อหุ้นคืนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพรวมในการวิเคราะห์บริษัท

ขณะเดียวกันควรมองว่าการซื้อหุ้นคืนเป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการลงทุน การตัดสินใจลงทุนที่ดีควรอยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ที่รอบด้าน ทั้งปัจจัยพื้นฐานของบริษัท แนวโน้มอุตสาหกรรม และสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโดยรวม

สำหรับใครที่สนใจว่าบริษัทซื้อหุ้นคืนทำไม และกระทบผู้ถือหุ้นอย่างไร? มาเรียนรู้ว่าการซื้อหุ้นคืน (Stock Repurchase) คืออะไร และทำไมบริษัทต้องซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้น พร้อมเรียนรู้หลักเกณฑ์ของบริษัทในการกำหนดราคาซื้อหุ้นคืน ตลอดจนทราบผลกระทบจากการซื้อหุ้นคืนที่มีต่อผู้ถือหุ้น

 

แหล่งที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย