XPG ปี 67 กวาดกำไรสุทธิ 161 ล้าน โต 51% ตั้งเป้าปี 68 ผลงานโต 20%

24 ก.พ. 2568 | 13:20 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ก.พ. 2568 | 13:20 น.

XPG ประกาศผลงานปี 67 แข็งแกร่ง กวาดกำไรสุทธิ 161 ล้าน โดต 51% จากปีก่อน หลังธุรกิจสินเชื่อมาแรง พร้อมกาางแผนปี 68 ผลงานโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20% แตะ 1.1 พันล้าน

นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG เปิดเผยว่า ท่ามกลางความท้าทายของตลาดการเงินปี 2567 บริษัทยังคงรักษาการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สะท้อนศักยภาพในการปรับตัวอย่างรอบด้าน พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ซึ่งภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม อยู่ที่ 911 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% และมีกำไรสุทธิที่ 161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% เมื่อเทียบกับปี 2566

โดยมีรายได้หลักมาจากรายได้จากดอกเบี้ยที่ทำได้ 568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  22% รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ 103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  118% รายได้จากเงินลงทุนและปันผล 85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% และรายได้อื่นๆ 40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 216% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
 
รายได้และกำไรในปี 2567 ที่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการมุ่งเน้นการใช้ Ecosystem ของกลุ่มบริษัทที่มีบริการทางการเงินอย่างครบวงจรเข้ามาต่อยอดความต้องการทางการเงิน และการลงทุนของลูกค้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยธุรกิจสำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุน อย่างธุรกิจการปล่อยสินเชื่อ สามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่นติดต่อกันถึง 6 ไตรมาส เป็นผลจากสภาวะดอกเบี้ยที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง และสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่ส่งผลให้สถาบันทางการเงิน

รวมถึงธนาคารเริ่มชะลอการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขการปล่อยกู้ภาคเอกชน ณ สิ้นปี 2567 ที่หดตัวครั้งแรกในรอบ 21 ปี นับตั้งแต่ปี 2546 ทำให้ผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนในการขยายธุรกิจมองหาทางเลือกใหม่ในการขอสินเชื่อ ส่งผลให้ยอดขอสินเชื่อเงินทุนของบริษัทเติบโตอย่างโดดเด่น

ปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อของบริษัทอยู่ที่ราว 4,000-6,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปีก่อนหน้าราว 110% นอกจากนี้ในสภาวะเศรษฐกิจดังกล่าวยังเป็นโอกาสของบริษัท ที่สามารถไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าได้อีกด้วย 

ขณะเดียวกันในส่วนของบริการเพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการสร้างความมั่งคั่ง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจจัดการกองทุนในกลุ่มบริษัท ได้มีการออกกองทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งกองทุนรวม (Mutual Fund) กองทุนส่วนบุคคล (Private Equity)

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทได้ร่วมมือกับ Macquarie Asset Management ผู้นำด้านการจัดการสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานระดับโลก เปิดตัวกองทุน X-PEGINFRA-UI กองทุนเปิดโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกครั้งแรกในประเทศไทย รวมถึงกองทุน X-PLUS

ที่เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนตามสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลาให้ครบทุกมิติ ตั้งเป้าปี 68 ขยายธุรกิจกองทุน และธุรกิจนายหน้าจัดจำหน่ายกองทุนรวม (LBDU) หนุนสินทรัพย์ภายใต้การจัดการแตะระดับ 16,000 ล้านบาท

นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG

อีกทั้งบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในกลุ่มบริษัท ได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงของสินทรัพย์ดิจิทัลในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้รายได้จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายปรับตัวดีขึ้น

นอกจากนี้นโยบายจากภาครัฐยกเว้นการจัดเก็บภาษีเงินได้จากส่วนแบ่งรายได้และเงินปันผลจากโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) ซึ่งคาดว่าจะตัวเป็นตัวขับเคลื่อนให้การเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO) กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยปัจจุบันมีแผนในการเสนอขายราว 3 - 5 โครงการ โดยจะเริ่มเสนอขายโครงการแรกในไตรมาส 1 นี้

สำหรับธุรกิจติดตามหนี้ และบริหารหนี้ด้อยคุณภาพของ บริษัท บริหารสินทรัพย์ เอ็กซ์สปริง เอ เอ็ม ซี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท มีผลประกอบการที่น่าพอใจ เป็นผลจากการที่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์เน้นไปที่คุณภาพในการจัดเก็บหนี้ในพอร์ตเดิม และเพิ่มมาตรการในการติดตามหนี้ด้อยคุณภาพอย่างเข้มข้นมากขึ้น ทำให้มียอดจัดเก็บหนี้เพิ่มขึ้น โดยในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าเข้าประมูลซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ 1,000 - 2,000 ล้านบาท หนุนพอร์ตบริหารหนี้รวมที่ระดับ 6,000 ล้านบาท

ปี 2567 ถือเป็นก้าวสำคัญแห่งการปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ของบริษท โดยได้มุ่งสู่ Business Transformation เพื่อให้เกิดการใช้ Ecosystem จากทุกทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับการบริหารด้านต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังคงยึดมั่นการทำธุรกิจที่มุ่งเน้นในการสนับสนุนลูกค้าทั้งด้านเงินทุน และองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ธุรกิจยุค

เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุม ทั้งกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์และวาณิชธนกิจ กลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน กลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และกลุ่มธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งนี้ บริษัทได้เริ่มให้บริการ “XSpring Application” แพลตฟอร์มที่ช่วยอำนวยความสะดวกและยกระดับประสบการณ์ด้านการลงทุนให้กับลูกค้า เพื่อเพิ่มโอกาสสู่ความสำเร็จทางการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น

“การเติบโตท่ามกลางความท้าทายจากหลายปัจจัย ตอกย้ำว่า XSPRING รุกธุรกิจได้ถูกทาง สะท้อนจากผลประกอบการในปี 2567 ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมที่ 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากปี 2567 เชื่อมโยงธุรกิจในเครือทั้งด้าน Traditional และ Digital เข้าด้วยกัน โดยจะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายฐานลูกค้าจาก Application ที่พร้อมใช้งานในปีนี้”