DELTA สถาบันปรับพอร์ต เทกระจาดขายกระจาย

23 พ.ย. 2567 | 08:00 น.
อัปเดตล่าสุด :23 พ.ย. 2567 | 08:57 น.

DELTA หนึ่งในผู้ค้ำยันตลาดหุ้นไทย ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นร้อนแรง จนถูกจับขังกรง Cash Balance กว่า 3 สัปดาห์ ทำเอาสถาบันกังวลอาจถูกคัดออกจาก SET 50 รีบปรับพอร์ตเทขายวันเดียวร่วงกว่า 28.50 บาท ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงตาม 22.02 จุด กูรูมองการปรับพอร์ตสถาบันจบรอบแล้ว

จากกระแสราคาหุ้น บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างร้อนแรง จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 20 พ.ย.67 ราคาหุ้นทะยานขึ้นทำสุิติสูงสุดใหม่ (New All Time High) แตะที่ระดับ 173.50 บาท ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ออกโรงเตือนขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อขาย DELTA

ด้วย P/E และ P/BV ที่ 100.68 เท่า และ 28.03 เท่า ตามลำดับ ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของตลาด Market Cap ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากประมาณ 1.38 ล้านล้านบาท เป็นประมาณ 2.16 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 57% ภายในระยะเวลาไม่ถึงสองเดือน (ตั้งแต่เดือน ต.ค. 67 เป็นต้นมา)

ซึ่งในวันเดียวกันนั้น ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่อนใบประกาศให้ DELTA เป็นหลักทรัพย์เข้ามาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ตั้งแต่ 21 พ.ย. ถึง 11 ธ.ค. 67 และออกกำกับไว้ว่า หากพบว่าสภาพการซื้อขายยังคงเปลี่ยนแปลงผิดไปจากสภาพปกติโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐาน (fundamental) สนับสนุน DELTA จะถูกยกระดับเข้าสู่มาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 2 และ 3 ตามลำดับ

โดยให้เหตุผลว่า การซื้อขายภาคบ่ายของวันที่ 20 พ.ย.67 ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยไม่มีสารสนเทศรองรับ (ซึ่ง DELTA ได้แจ้งผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว) ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ปรับขึ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 ที่ 2,367 ล้านบาท (ช่วงเช้ามูลค่าอยู่อันดับ 5 ที่ 667 ล้านบาท) ราคาปรับเพิ่ม 3.58% จากปิดช่วงเช้า (ช่วงเช้า +1.21%)

ส่งผลให้ในวันที่ 21 พ.ย.67 ราคาหุ้น DELTA ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง 28.50 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 16.43% มาอยู่ที่ระดับ 145.00 บาท เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันดังกล่าวลดลงกว่า 22.02 จุด หรือเปลี่ยนเปลง 1.51% มาอยู่ที่ระดับ 1,440.46 จุด จากปิดตลาดวันก่อนหน้าที่ 1,462.48 จุด

ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้สอบถามข้อมูลจากนักวิเคราะห์ถึงการลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทย โดย นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ให้ความคิดเห็นว่า จากการที่หุ้น DELTA ติด Cash Balance

ทำให้มีความเสี่ยงที่จะถูกคัดออกจากดัชนี SET 50 เนื่องจากการคำนวนการคัดหุ้นนั้นจะรวมถึงมูลค่าการซื้อขาย นับ 12 เดือนย้อนหลัง ซึ่งการติด Cash Balance ของ DELTA ในรอบนี้ทำให้ถูกตัดออกไปเกือบ 3 สัปดาห์  หรืออีกนัยหนึ่งคือไม่ครบ 12 เดือนตามกำหนด ดังนั้น ภาพระยะกลางของกลางปี 68 หุ้น DELTA จึงมีความเสี่ยงถูกคัดออกจากดัชนี SET 50

ปฎิเสธไม่ได้ว่าการกลับมาของตลาดหุ้นไทยในรอบนี้แรงหนุนหลักๆ เป็นผลมาจากการพยุงของราคาหุ้นเพียง 6-7 หลักทรัพย์ ซึ่งหนึ่งในหุ้นที่สำคัญ คือ DELTA ทำให้เมื่อราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาจึงมีผลฉุดดัชนี SET Index ไปด้วย โดยราคาหุ้น DELTA ทุกๆ 1 บาท ที่ลดลงเท่ากับฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยให้ลดลง 1 จุด ด้วยเช่นเดียวกัน

นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยว่า ที่ราคาหุ้น DELTA ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันที่ 21 พ.ย.67 นั้น เป็นผลมาจากการขายออกของกลุ่มสถาบันเพื่อเป็นการปรับพอร์ตและกระจายความเสี่ยง หลังหุ้น DELTA ติด Cash Balance และเสี่ยงถูกคัดออกจาก SET 50

โดยในวันที่ 22 พ.ย.67 จะเห็นได้ว่าความเคลื่อนของราคาหุ้น DELTA เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ราคาหุ้นปิดตลาดในวันที่ 22 พ.ย.67 กลับมายืนแดนบวกได้ที่ระดับ 146.00 บาท มูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 1,689.53 ล้านบาท

มองว่าการปรับพอร์ตของาสถาบันในรอบนี้ได้จบลงแล้ว และพบว่าสถาบันได้มีการโยกเงินไปลงในหุ้นใหญ่หลายตัวใน SET 50 แทน

ส่วนปัจจัยที่มองว่าส่งผลต่อการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น DELTA เป็นผลมาจากความน่าสนใจของธุรกิจที่อยู่ในโซนของเมกะเทรนด์โลก ที่เชื่อมต่อในด้านของเทคโนโลยี โดย DELTA เองมีสตอรี่เป็นผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับ Data Center และ EV ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ตลาดกำลังให้น้ำหนักในตอนนี้ และด้วยตลาดหุ้นไทยที่แทบจะไม่มีหุ้นเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงกับเมกะเทรนด์โลก ทำให้ DELTA จึงถูกดึงดูดความสนใจที่สุดในเวลานี้

"ฐานเศรษฐกิจ" ได้ทำการรวบรวมสถิติการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น DELTA ในปี 67 พบว่า นับตั้งแต่เปิดต้นปี 67 วันที่ 2 ม.ค. ปิดตลาดที่ระดับ 91.25 บาท ในช่วงระหว่างนั้นราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั้งวันที่ 20 พ.ย. ที่ราคาหุ้นทำ New All Time High แตะที่ระดับ 173.50 บาท

นับว่าเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากว่า 82.25 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 90.13% ทั้งนี้ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ณ วันที่ 22 พ.ย.67 อยู่ที่ระดับ 1,821,177.16 ล้านบาท ลดลงมาจากวันที่ 20 พ.ย.67 ที่พีคสุดระดับ 2,164,207.10 ล้านบาท

ผลงาน 9 เดือนปี 67

  • รายได้รวม : อยู่ที่ 124,488.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15,063.97 ล้านบาท หรือ 13.76% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 109,424.58 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ : อยู่ที่ 16,783.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,072.28 ล้านบาท หรือ 22.40% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 13,711.15 ล้านบาท
  • รวมสินทรัพย์ : อยู่ที่ 118,759.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,590.06 ล้านบาท หรือ 8.78% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 109,169.82 ล้านบาท
  • เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน : อยู่ที่ 24,220.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,380.92 ล้านบาท หรือ 104.57% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 11,839.11 ล้านบาท

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น DELTA ปิดตลาดวันที่ 22 พ.ย.67 อยู่ที่ระดับ 146.00 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 0.69% จากปิดตลาดวันก่อนหน้า ในช่วงระหว่างวันราคาหุ้นดีดตัวขึ้นทำจุดสูงสุดที่ระดับ 147.00 บาท และย่อตัวลงทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 141.50 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 1,689.53 ล้านบาท