สรรหาประธานธปท.ระอุ รุมต้าน“กิตติรัตน์ ณ ระนอง”รอบทิศ

02 พ.ย. 2567 | 12:20 น.
อัปเดตล่าสุด :02 พ.ย. 2567 | 12:20 น.

จับตาประชุมบอร์ดสรรหาประธานธปท. 4 พ.ย.นี้ หลังตรวจสอบคุณสมบัติเพิ่มเติม นักวิชาการ 227 คนรุมต้าน ออกแถลงการณ์ค้านการเมืองครอบงำ พบ 4 ร่วมด้วย แจงหากปล่อยผ่าน อาจนำคนการเมืองมานั่งผู้ว่าธปท.ตามมา

KEY

POINTS

  • คณะกรรมการสรรหาบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะมีการประชุมวันที่ 4 พ.ย.นี้ เพื่อคัดเลือกบุคคลแทนประธานและกรรมการที่หมดวาระลง 
  • กระทรวงการคลังเสนอนชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้มีความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยและเป็นตัวเต็งในการเป็นประธาน เนื่องจากประสบการณ์และตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลที่ผ่านมา
  • นักวิชาการ 227 คนได้ลงนามคัดค้านการแต่งตั้งบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับการเมืองให้ดำรงตำแหน่งสำคัญใน ธปท. โดยชี้ว่า ควรรักษาอิสระของธนาคารกลางในการดำเนินนโยบายเพื่อเสถียรภาพเศรษฐกิจ

ร้อนแรงขึ้นมาอีกรอบ เมื่อกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคมได้รวบรวมรายชื่อนักวิชาการ 227 คนลงนามออกแถลงการณ์คัดค้านการครอบงำธนาคารแห่งประเทศ(ธปท.) โดยกลุ่มการเมือง ก่อนจะมีการประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)สรรหาบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานบอร์ดวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 นี้

หลังจากมีการประชุมไปแล้ว 2 ครั้ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 แต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ เพราะจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้มีข้อมูลครบถ้วนสำหรับการพิจารณา ท่ามกลางกระแสการต่อต้านจากหลายฝ่ายไม่ให้ฝ่ายการเมืองส่งคนมาแทรกแซงธปท.

ทั้งนี้ ธปท.อยู่ระหว่างการสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธปท.คนใหม่ แทนนายปรเมธี วิมลศิริ ที่หมดวาระลงเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 และกรรมการอีกสองคนแทนนายมนัส แจ่มเวหาและนายนนทิกร กาญจนะจิตรา ที่หมดวาระลงเช่นกัน

ตามกฎหมายกระทรวงการคลังสามารถเสนอรายชื่อได้ 1 เท่าของกรรมการที่หมดวาระลงและธปท.มีสิทธิ์เสนอรายชื่อมา 2 เท่าของกรรมการที่หมดวาระลง

กระทรวงการคลังได้เสนอรายชื่อให้บอร์ดสรรหา 3 รายชื่อคือ

ประธานกรรมการ

  • นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

กรรมการอีก 2 คน

  • นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา
  • นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต)

ขณะที่ธปท.เสนอรายชื่อบุคคลที่จะเป็นประธานกรรมการคือ 2 คนคือ

  • นายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน
  • นายสุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และกรรมการอิสระ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)

ส่วนกรรมการคือนายอนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศและอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 

นายกิตติรัตน์ถูกมองว่า เป็นตัวเต็งที่จะได้เป็นประธานบอร์ด เนื่องจากมีความใก้ชิดกับพรรคเพื่อไทย เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ขณะที่ในสมัยรัฐบาลเศรษฐาได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี  ซึ่งในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ ธปท.ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังพรรคเพื่อไทย จึงได้รับหนังสือยืนยันว่า นายกิตติรัตน์ได้ลาออกจากตำแหน่งใดๆ ในพรรคตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2566

แม้นายกิตติรัตน์จะพ้นผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองหรือตำแหน่งทางการเมืองมาแล้วเกินกว่าหนึ่งปี ที่ไม่ขัดคุณสมบัติตามที่กฎหมายเขียนไว้ 

แต่ภาพที่นายกิตติรัตน์เคยกล่าวต่อสื่อมวลชนในปี 2555ว่า ในฐานะรัฐมนตรีคลังให้ข้อมูล ตัวเลขที่ต่อสื่อมวลชนไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง หรือเรียกว่าเป็น “โกหกสีขาว” ได้จนมีการตั้งคำถามถึงความเหมาะสม และผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยจนนำไปสู่ประเด็นหนึ่งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา

 ปี 2560 นายกิตติรัตน์เเคยขึ้นศาลเบิกความคดีจำนำข้าว โดยเป็นพยานชี้แจงถึงเหตุผลในการจัดทำโครงการดังกล่าว จากนั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิด

เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายกิตติรัตน์กับพวก ยังถูกกล่าวหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยละเว้นไม่ควบคุมดูแลหรือสั่งการให้มีการตรวจสอบ กรณีองค์การคลังสินค้าคัดเลือกบริษัท สยามอินดิก้า จำกัดให้เป็นผู้ส่งมอบข้าวให้ BULOG ประเทศอินโดนีเซีย ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 

แม้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษายกฟ้องนายกิตติรัตน์ แต่ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติแจ้งให้อัยการสูงสุด(อสส.)อุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาในคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษากรณียกฟ้องนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง

การสรรหาประธานกรรมการ ธปท.

ภาพดังกล่าวทำให้นักวิชาการ 227 คนลงนามคัดค้านการจะดึงคนของการเมืองมานั่งเป็นประธานบอร์ดธปท. ซึ่งปรากฎว่า ในจำนวน 227 รายชื่อนั้นมี อดีตผู้ว่าการ ธปท.ถึง 4 คนคือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล นายวิรไท สันติประภพ นายประสาน ไตรรัตนวรกุล และนางธาริษา วัฒนเกส ร่วมด้วย

ทั้งนี้กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคมและภาคส่วนต่างๆเห็นว่า การรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของระบบเศรษฐกิจเป็นภารกิจหลักของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งตามหลักสากลธนาคารกลางควรมีอิสระในการดำเนินนโยบายเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและเป็นประโยชน์สูงสุดของประเทศ อันนำไปสู่ความมั่นคงที่ยั่งยืนในระยะยาว 

นอกจากนี้ หากการครอบงำครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ก็มีแนวโน้มว่าฝ่ายการเมืองจะใช้วิธีเดียวกันในการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยในช่วงกลางถึงปลายปีหน้า โดยส่งบุคคลที่มีความสนิทชิดใกล้ทางการเมืองเข้ามาดำรงตำแหน่งเพื่อประโยชน์ทางการเมือง

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,041 วันที่ 3 - 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567