3 ยักษ์อสังหาฯ เครือ “เจ้าสัวเจริญ” AWC-FPT-UV รุกลงทุนครบวงจร

30 ต.ค. 2567 | 10:01 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ต.ค. 2567 | 10:01 น.

เจาะธุรกิจอสังหาฯ เครือเจ้าสัวเจริญ AWC ผู้นำธุรกิจให้เช่าครบวงจรทั้งโรงแรม-ออฟฟิศ-รีเทล FPT แกร่งด้านอสังหาฯ อุตสาหกรรม-ที่อยู่อาศัย UV กระจายพอร์ตลงทุนหลากหลายธุรกิจ

KEY

POINTS

  • เปิดกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือเจ้าสัว ‘เจริญ สิริวัฒนภักดี’ 3 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ท่ามกลางความท้าทายของตลาดอสังหาริมฯไทย
  • เทียบผลงาน และการจ่ายปันผล AWC-FPT-UV

ท่ามกลางความท้าทายของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือเจ้าสัว ‘เจริญ สิริวัฒนภักดี’ 3 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ประกอบด้วย บริษัท แอสเสท เวิร์ด คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC, บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT และบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีรายได้รวมกันในปี 2566 ทั้งสิ้น 48,517.26 ล้านบาท กำไรสุทธิรวมทั้งหมด 7,405.26 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.)รวมกัน 129,454.2  ล้านบาท โดยแต่ละบริษัทมีจุดแข็งและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกัน AWC ธุรกิจอสังหาฯ ให้เช่าครบวงจร

AWC พอร์ตการลงทุนหลากหลาย

AWC ภายใต้การนำของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริษัทและประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยนางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส กรรมการ ได้มีพอร์ตการลงทุนที่หลากหลาย

ปัจจุบัน AWC มีกลุ่มโรงแรมในพอร์ตบริหารทั้งสิ้น 22 แห่ง เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด พร้อมห้องพักรวมกว่า 6,029 ห้อง และ 6 ห้องอาหาร กลุ่มอาคารสำนักงาน 4 แห่ง มีพื้นที่เช่าสุทธิ 270,594 ตารางเมตร รวมถึงศูนย์การค้า 7 แห่ง และธุรกิจค้าส่ง 2 โครงการ

ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี (2564-2566) AWC มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 4,395.83 ล้านบาท เป็น 14,035.47 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 861.48 ล้านบาท เป็น 5,037.86 ล้านบาท และกำไรสะสมเพิ่มขึ้นจาก 6,847.83 ล้านบาท เป็น 14,437.67 ล้านบาท

 

ขณะที่ผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2567 AWC มีรายได้รวม 7,822.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 6,795.25 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,851.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2,543.77 ล้านบาท และกำไรสะสม 15,689.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 11,928.44 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในปี 2564 AWC งดจ่ายปันผล ปี 2565 จ่าย 0.01076 บาทต่อหุ้น ปี 2566 จ่าย 0.032 บาทต่อหุ้น และปี 2567 จ่าย 0.05 บาทต่อหุ้น 

ณ วันที่ 28 ต.ค. 2567 หุ้น AWC ปิดตลาดที่ 3.64 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 61.02 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) 116,498.06 ล้านบาท P/E 21.79 เท่า และ P/BV 1.31 เท่า

FPTธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร

FPT ภายใต้การนำของ นายชายน้อย เผื่อนโกสุม ประธานกรรมการ นายปณต สิริวัฒนภักดี รองประธานกรรมการ นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีธุรกิจพัฒนาและบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม ที่อยู่อาศัย พาณิชยกรรม และฮอสพิทาลิตี้ รวมถึงกองทรัสต์ FTREIT, GVREIT และกองทุนรวม GOLDPF

ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 (1 ต.ค. 66 - 30 มิ.ย. 67) FPT มีรายได้รวม 10,030.80 ล้านบาท ลดลงจาก 10,766.33 ล้านบาท กำไรสุทธิ 805.76 ล้านบาท ลดลงจาก 1,020.78 ล้านบาท แต่กำไรสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 11,631.89 ล้านบาท จาก 10,924.05 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
 

สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี (2564-2566) FPT มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 15,721.02 ล้านบาท เป็น 16,809.48 ล้านบาท กำไรสุทธิในปี 2566 อยู่ที่ 1,851.56 ล้านบาท และกำไรสะสมเพิ่มขึ้นจาก 9,191.69 ล้านบาท เป็น 11,753.83 ล้านบาท โดยในปี 2564 จ่ายเงินปันผล 0.34 บาทต่อหุ้น ปี 2565 จ่าย 0.43 บาทต่อหุ้น และปี 2566 จ่าย 0.40 บาทต่อหุ้น ณ วันที่ 28 ต.ค. 2567 หุ้น FPT ปิดตลาดที่ 12.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.78% มูลค่าการซื้อขาย 2.5 แสนบาท Market Cap. 29,686.75 ล้านบาท P/E 18.14 เท่า และ P/BV 0.82 เท่า

UV ปักหมุดธุรกิจลงทุน-อสังหา-อุตสาหกรรม

UV ภายใต้การนำของ นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช ประธานกรรมการบริษัท นายฐาปน สิริวัฒนภักดี รองประธานกรรมการ นายปณต สิริวัฒนภักดี รองประธานกรรมการ มี 3 สายธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจการลงทุน ซึ่งปัจจุบันลงทุนในธุรกิจพลังงาน ธุรกิจตู้แช่เชิงพาณิชย์ และธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และธุรกิจด้านอุตสาหกรรม ได้แก่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายผงสังกะสีออกไซด์และเคมีภัณฑ์

ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 UV มีรายได้รวม 11,575.91 ล้านบาท ลดลงจาก 12,313.56 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 891.00 ล้านบาท จาก 500.57 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

เมื่อพิจารณาผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี (2564-2566) UV มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 3,427.63 ล้านบาท เป็น 17,672.31 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 30.17 ล้านบาท เป็น 515.84 ล้านบาท และกำไรสะสมเพิ่มขึ้นจาก 3,566.80 ล้านบาท เป็น 4,080.81 ล้านบาท  โดยในปี 2564 จ่ายเงินปันผล 0.016 บาทต่อหุ้น ปี 2565 จ่าย 0.045 บาทต่อหุ้น และปี 2566 จ่าย 0.09 บาทต่อหุ้น

ณ วันที่ 28 ต.ค. 2567 หุ้น UV ปิดตลาดที่ 1.71 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 2.6 แสนบาท Market Cap. 3,269.39 ล้านบาท P/E 40.35 เท่า และ P/BV 0.30 เท่า

เปรียบเทียบผลดำเนินงาน AWC-FPT-UV

เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของทั้ง 3 บริษัท พบว่า ด้านรายได้รวม AWC มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จาก 4,395.83 ล้านบาทในปี 2564 เป็น 14,035.47 ล้านบาทในปี 2566 ขณะที่ FPT มีการเติบโตที่สม่ำเสมอ จาก 15,721.02 ล้านบาทในปี 2564 เป็น 16,809.48 ล้านบาทในปี 2566 ส่วน UV มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด จาก 3,427.63 ล้านบาทในปี 2564 เป็น 17,672.31 ล้านบาทในปี 2566

ด้านกำไรสุทธิ AWC มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก 861.48 ล้านบาทในปี 2564 เป็น 5,037.86 ล้านบาทในปี 2566 ส่วน FPT มีกำไรสุทธิผันผวน โดยปี 2566 อยู่ที่ 1,851.56 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ที่ 2,464.47 ล้านบาท ขณะที่ UV มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก 30.17 ล้านบาทในปี 2564 เป็น 515.84 ล้านบาทในปี 2566

ส่วนการจ่ายปันผล AWC มีแนวโน้มจ่ายปันผลเพิ่มขึ้น จาก 0.01076 บาทต่อหุ้นในปี 2565 เป็น 0.05 บาทต่อหุ้นในปี 2567 ขณะที่ FPT จ่ายปันผลสม่ำเสมอที่ระดับ 0.34-0.43 บาทต่อหุ้น ด้าน UV มีแนวโน้มจ่ายปันผลเพิ่มขึ้น จาก 0.016 บาทต่อหุ้นในปี 2564 เป็น 0.09 บาทต่อหุ้นในปี 2566

 

หน้า 11 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 4,040 วันที่ 31 ต.ค. - 2 พ.ย. พ.ศ. 2567