จากกรณี บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทการตรวจพบรายการอันควรสงสัย ของบริษัทย่อย จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด หรือ THB และ บริษัท ที เอซ เฮลท์ จำกัด หรือ THH
ล่าสุด นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ "หมอบุญ" อดีตประธานกรรมการ และเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว เป็นเพียงเรื่องการเข้าใจผิดภายในองค์กร
ดังนั้น THG ไม่มีการทุจริต และเงินไม่ได้หาย แต่ยอมรับว่ามีการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศเยอรมันจริง แต่บริษัทไม่ได้รับมอบสินค้าดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทเข้ามารับผิดชอบค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว คิดเป็นจำนวนเงินเสียหาย 110 ล้านบาท ไม่ใช่ 210 ล้านบาท โดย THG ไม่ต้องแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมกับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แล้ว เพราะมีการคุยกันภายในเรียบร้อยแล้ว
“เป็นเรื่องการเข้าใจผิดที่ไม่มีการสื่อสารกัน ยืนยัน THG ไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น และไม่มีเงินหายด้วย แต่เรายอมรับว่ามีการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศเยอรมัน แต่ต้นทางไม่มีการส่งมอบสินค้าดังกล่าวให้ ซึ่งปัจจุบันเรามีการแก้ไขแล้ว และมีบริษัทมารับผิดชอบค่าเสียหายดังกล่าว ซึ่งจำนวนเงินจริง 110 ล้านบาท” นายแพทย์บุญ ระบุ
ก่อนหน้านี้ THG ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทการตรวจพบรายการอันควรสงสัยดังนี้
1. เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 คณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทได้รับทราบข้อมูลการทำรายการอันควรสงสัยของบริษัทย่อย จำนวน 2 แห่ง ได้แก่
2. การทำรายการอันควรสงสัยของบริษัทย่อยดังกล่าวประกอบด้วย
3. การเข้าทำรายการอันควรสงสัยตามข้อ 2 ข้างต้น เป็นการดำเนินการโดยฝ่ายบริหารบางส่วนของบริษัทย่อยซึ่งเป็นการกระทำนอกอำนาจหน้าที่ ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทย่อย ไม่ได้ปฏิบัติตามประกาศเรื่องรายการที่เกี่ยวโยงกันของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ฯ และไม่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการของบริษัท
4. ณ ปัจจุบัน ยอดหนี้คงค้างของรายการอันควรสงสัยดังกล่าวรวมทั้งสิ้นประมาณ 105 ล้านบาท (ไม่นับรวมดอกเบี้ย)
5. บริษัทได้แจ้งให้ผู้สอบบัญชีของบริษัททราบถึงรายการอันควรสงสัยดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 และบริษัทขอให้ผู้สอบบัญชีให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับรายการอันควรสงสัยดังกล่าว โดยบริษัทคาดว่า หากมีผลกระทบจะสามารถเปิดเผยผลกระทบทางการเงินนี้ได้ในงบการเงินรวมของไตรมาสที่สามที่กำลังจะจัดทำและเปิดเผยให้ผู้ลงทุนทราบต่อไป
6. บริษัทได้เริ่มดำเนินการแก้ไขเหตุการณ์ที่ตรวจพบเพื่อรักษามาตรฐานในการบริหารจัดการดังนี้
ทั้งนี้ บริษัทอาจพิจารณาว่าจ้างที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกตามความเหมาะสม เพื่อให้ความช่วยเหลือในการวางแผนแก้ไขและป้องกันความเสี่ยงเพิ่มเติม
ข้อมูล : กรุงเทพธุรกิจ