กูรูชี้หุ้นแบงก์ร่วง จากการตั้งสำรอง-NPLสูง ไม่เกี่ยวปล่อยกู้เมียนมา

หลังจากที่วันนี้ 19 ก.ค.2567 กลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ทยอยประกาศผลประกอบการออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง KBANK BAY BBL CIMBT TTB SCB KKP และ TISCO ที่มีการประกาศงบนำไปก่อนแล้ว ผลปรากฎว่าราคาหุ้นกลุ่มแบงก์จับมือกันร่วงไปอยู่แดนลบซะเป็นส่วนใหญ่

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการณผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการทยอยประกาศงบผลประกอบการของหุ้นกลุ่มแบงก์ในวันนี้ (19 ก.ค.67) แม้ว่าบางแห่งจะมีกำไรสุทธิที่เติบโตกว่าเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ราคาหุ้นกลับไม่ตอบรับ และยังแกว่งตัวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่

หลักๆ มองว่า ด้วยตัวเลขของการตั้งสำรองในระดับที่สูงลิ่ว ขณะที่ตัวเลขหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) เองก็อยู่ในระดับที่สูง ส่งผลให้นักลงทุนเองเกิดความกังวลใจว่านี่อาจยังไม่ใช่จุดต่ำสุดของการตั้งสำรองและ NPL และอาจต้องรอดูผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3/2567 อีกครั้งว่าตัวเลขดังกล่าวจะมีทิศทางการปรับตัวที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง

อย่างไรก็ตาม มองว่าสถานะการณ์ในช่วงครึ่งหลังปี 2567 จะมีทิศทางที่ดีขึ้น ปัจจัยสนับสนุนหลักๆ เป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะทยอยออกมา รวมถึงการเร่งเบิกข่าบงบประมาณปีและการออกโครงการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยหนุนให้ภาคการบริโภคให้ดีขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้คาดว่าหุ้นกลุ่มแบงก์จะได้รับอานิสงส์ดังกล่าวร่วมด้วย

สำหรับคำแนะนำในการลงทุนนั้น ในระยะสั้นมองว่ายังพอต่อราคาได้อีกหน่อย และยังสามารถสะสมได้ในระยะนี้ เนื่องจากประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation) ไม่แพง อีกทั้งหุ้นกลุ่มแบงก์โดยเฉพาะแบงก์ใหญ่มีการจ่ายปันผลที่ค่อนข้างสูงระดับ 5% มองว่าหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ไม่มี หรือมีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อในระดับต่ำ ค่อนข้างน่าสนใจ ทั้งนี้ ทางฝ่ายยังมองบวก BBL KBANK 

ส่วนประเด็นกระแสข่าวลือที่ว่าธนาคารไทยปล่อยกู้พม่าซื้ออาวุธนั้น มองว่าไม่ได้มีผลเชิงลบหรือไปฉุดให้ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวลดลงในวันนี้ ส่วนตัวมองว่าปัจจุบันธนาคารให้บริการธุรกรรมระหว่างประเทศอยู่แล้ว เพื่อสนับสนุนลูกค้าไทยที่ต้องการชำระค่าสินค้าและบริการไปยังต่างประเทศ ซึ่งอาจรวมถึงเมียนมาด้วย

อนึ่ง ราคาหุ้น บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ปิดตลาด วันที่ 19 ก.ค. 2567 อยู่ที่ระดับ 93.75 บาท ปรับตัวลดลง 0.75 บาท หรือ 0.79% จากราคาปิดตลาดก่อนหน้าที่ 94.50 บาท ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 94.50 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 93.75 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 531.14 ล้านบาท

ราคาหุ้น ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 132.50 บาท ปรับตัวลดลง 5.00 บาท หรือ 3.64% จากราคาปิดตลาดก่อนหน้าที่ 137.50 บาท ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 135.00 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 131.50 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 2,559.25 ล้านบาท

ราคาหุ้น ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 1.76 บาท ปรับตัวลดลง 0.01 บาท หรือ 0.56% จากราคาปิดตลาดก่อนหน้าที่ 1.77 บาท ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1.78 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1.74 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 458.06 ล้านบาท

ราคาหุ้น ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP ปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 41.00 บาท ปรับตัวลดลง 2.25 บาท หรือ 5.20% จากราคาปิดตลาดก่อนหน้าที่ 43.25 บาท ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 43.00 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 41.00 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 787.82 ล้านบาท

ราคาหุ้น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 17.10 บาท ปรับตัวลดลง 0.30 บาท หรือ 1.72% จากราคาปิดตลาดก่อนหน้าที่ 17.40 บาท ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 17.50 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 17.00 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 856.66 ล้านบาท

ในขณะที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY วันนี้ราคาหุ้นกลับเพิ่มขึ้นสวนทางราคาหุ้นตัวอื่นๆ ในกลุ่มแบงก์ โดยราคาหุ้น KBANK ปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 128.00 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.39% จากราคาปิดตลาดก่อนหน้าที่ 127.50 บาท ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 129.50 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 126.50 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 1,896.99 ล้านบาท

ราคาหุ้น BAY ปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 24.80 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 1.22% จากราคาปิดตลาดก่อนหน้าที่ 24.50 บาท ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 24.80 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 24.50 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 3.46 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้น บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT ในวันที่ 19 ก.ค. 2567 ไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยราคาหุ้น SCB ปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 101.50 บาท ซึ่งยังคงเป็นราคาใกล้เคียงจากราคาปิดตลาดก่อนหน้า ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 102.00 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 100.50 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 952.52 ล้านบาท

ราคาหุ้น CIMBT ปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 0.44 บาท ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากราคาปิดตลาดก่อนหน้าที่ 0.44 บาท ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 0.45 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 0.44 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 2.2 แสนบาท อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน CIMBT ถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย CF (บริษัทมีการกระจายการถือหุ้นรายย่อยไม่เป็นไปตามเกณฑ์ (< 150 ราย หรือ < 15%ของทุนชำระแล้ว)) กำกับ