ตลาดหุ้นไทย ปิดภาคเช้า (17 เม.ย.67 ) ดัชนี SET ปิดที่ 1,366.04 จุด ลดลง 30.34 จุด หรือลบ 2.17% มูลค่าซื้อขายราว 35,808.05 ล้านบาท โดยดัชนีปิดสูงสุด 1,380.12 จุด และต่ำสุดที่ 1,363.44 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับตัวตามหลังตลาดหุ้นต่างประเทศที่ในช่วงวันหยุดสงกรานต์บ้านเราลงไปมาก ปัจจัยกดดันหลัก ยังมาจากกังวลความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์สงครามในตะวันออกกลางที่เกิดการตอบโต้ระหว่างอิสราเอลและอิหร่านสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
ขณะเดียวกัน ปัจจัยจากฝั่งสหรัฐ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยสูงต่อ หลังจากการบริการจัดการเงินเฟ้อให้ลดลงทำได้ช้า ตลาดจึงปรับเปลี่ยนการคาดการณ์โอกาสเฟดลดดอกเบี้ยปีนี้เหลือเพียง 1 ครั้ง จากเดิม 2 ครั้ง กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก
ประกอบกับในวันนี้ มีหุ้นกลุ่มแบงก์ใหญ่ราคาร่วงลงจากการขึ้น XD กดดันดัชนี ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าที่ผ่านมาส่วนใหญ่ปรับลงเช่นกัน
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่าตลาดยังคงแกว่งแดนลบต่อเนื่อง ไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามาช่วยหนุน มองว่านักลงทุนเลือกขายสินทรัพย์เสี่ยงไปถือเงินสดมากขึ้น เพราะสถานการณ์ต่าง ๆ ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ค่อนข้างมาก โดยให้แนวรับ 1,355-1,360 จุด และแนวต้าน 1,370-1,375 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด