หุ้น KEX ผันผวนดีดสูงสุด 23% หลัง "เอสเอฟ ฯ" ตั้งโต๊ะเทนเดอร์ สิ้นสุดวันนี้

22 มี.ค. 2567 | 11:56 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มี.ค. 2567 | 11:57 น.

KEX ราคาผันผวนวิ่งแรง หลัง “เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนลฯ” ตั้งโต๊ะเทนเดอร์ ราคาหุ้นละ 5.50 บาท สิ้นสุดวันนี้ 22 มี.ค.67 ดันราคาเช้านี้แตะสูงสุด 6.50 บาท ปรับเพิ่มกว่า 23% ล่าสุดอ่อนตัวยืนที่ 5.40 บาท

ราคาหุ้น บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) หรือ KEX   (22 มี.ค.67) เปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 5.25 บาท ( เท่าราคาปิดวานนี้ 21 มี.ค.67) โดยปรับตัวสูงสุดที่ 6.50 บาท เพิ่มขึ้น 23.81% หรือบวก 1.25 บาท ขณะที่ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 5.25 บาท

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.38 น. ราคา KEX ปรับอ่อนตัวลงบวก 2.86% หรือปรับเพิ่ม 0.15 บาท อยู่ระดับ 5.40 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 211.80 ล้านบาท  


 

ราคาหุ้น KEX เคลื่อนไหวผันผวน หลังมีรายงานข่าวที่ระบุว่า นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) อาจตัดสินใจขายหุ้น บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) (KEX) จากที่ BTS และ บมจ.วีจีไอ (VGI) ถืออยู่ออกไปบางส่วนเท่านั้น เพราะยังมั่นใจในธุรกิจของ KEX ว่าปีนี้จะพลิกกลับมามีกำไร  

โดยปัจจุบัน  BTS ถือหุ้นใน KEX สัดส่วน 5.72% และ VGI ถือสัดส่วน 15.45% 

ทั้งนี้บริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 5.50 บาท โดยมีระยะเวลาทำคำเสนอซื้อ นับตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.- 22 มี.ค. 67 โดยวันนี้เป็นวันสิ้นสุดการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์
 

ผลประกอบการของ KEX นับตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่กลุ่มบีทีเอสเริ่มเข้ามาลงทุน  เป็นดังนี้

  • ปี 2563 มีรายได้รวมที่ 19,010  ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,405 ล้านบาท 
  • ปี 2564 มีรายได้รวมที่ 18,972 ล้านบาท กำไรสุทธิ 46.92 ล้านบาท 
  • ปี 2565 มีรายได้รวมที่ 17,145 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 2,830 ล้านบาท  
  • ปี 2566 มีรายได้รวมที่ 11,541.48 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 3,881 ล้านบาท 

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดว่าเบื้องต้น BTS และ VGI น่าจะขายหุ้น KEX ออกมาบางส่วน ซึ่ง VGI จะได้รับประโยชน์มากกว่า BTS เพราะถือหุ้นใน KEX มากกว่า ขณะที่ BTS จะได้รับประโยชน์ทางอ้อม จากการที่รับรู้ผลขาดทุนของ KEX น้อยลง ทำให้ภาพลักษณ์ผลประกอบการดีขึ้น แม้จะมิได้ส่งผลต่อผลประกอบการโดยรวม เนื่องจาก BTS ถือหุ้นใน KEX น้อยแค่ 5.72% ส่วนเหตุที่ BTS และ VGI ไม่ขายหุ้นที่ถืออยู่ใน KEX ทั้งหมดนั้น น่าจะเป็นเพราะรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน และยังหวังว่าผลประกอบการของ KEX จะดีขึ้น

ส่วนกรณีที่กทม.จะชำระค่างาน E&M โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 แก่ BTS ภายในเดือนนี้ จะเป็นประโยชน์ด้านกระแสเงินสดของ BTS ทำให้สภาพคล่องดีขึ้นมีเงินไปชำระหนี้ และลงทุนตามแผนงานต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น