ดาวโจนส์ปิดร่วง 62.30 จุด จับตาข้อมูลเศรษฐกิจ-เงินเฟ้อสหรัฐ

27 ก.พ. 2567 | 06:38 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.พ. 2567 | 06:44 น.

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบในวันจันทร์ (26 ก.พ.) นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ช่วงเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,069.23 จุด ลดลง 62.30 จุด หรือ -0.16%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,069.53 จุด ลดลง 19.27 จุด หรือ -0.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,976.25 จุด ลดลง 20.57 จุด หรือ -0.13%

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ แต่นักลงทุนชะลอการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค.ที่จะรายงานในวันอังคาร (27 ก.พ.) ,ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2566 ในวันพุธ (28 ก.พ.) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค. ในวันพฤหัสบดี (29 ก.พ.)

ทั้งนี้ ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ข้อมูลล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนได้เลื่อนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดออกไปเป็นเดือนมิ.ย. จากเดิมที่คาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. ภายหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงเกินคาด

หุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 4.02% และช่วยให้ดัชนี Nasdaq ลดช่วงลบ หลังจากมีรายงานว่าไมครอน เทคโนโลยีได้เริ่มทำการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ high-bandwidth memory สำหรับใช้ในชิป AI รุ่นล่าสุดของบริษัทอินวิเดีย

ส่วนดัชนีหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดหุ้นฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia SE Semiconductor Index) พุ่งขึ้น 1.05%

หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ร่วงลง 4.44% หลังจากกูเกิลประกาศว่าจะกลับมาเปิดฟีเจอร์การสร้างสรรค์ภาพในเจมีไน (Gemini) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ AI ของบริษัท ในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ภายหลังจากบริษัทได้ตัดสินใจระงับการใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังพบว่าซอฟต์แวร์สร้างภาพประวัติศาสตร์ด้วยความผิดพลาดและไม่ถูกต้อง และทำให้ผู้ใช้งานบนโซเชียลมีเดียวิจารณ์ Gemini ว่าสร้างภาพบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์อย่างไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง เช่น สร้างภาพบิดาผู้ก่อตั้งสหรัฐ (U.S. Founding Fathers) เป็นคนผิวสี

 

 

หุ้นเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway) ซึ่งเป็นบริษัทของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ปรับตัวลง 1.9% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากรัฐบาลสหรัฐเตือนว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับบริษัทแปซิฟีคอร์ป (PacifiCorp) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์

หุ้นโดมิโน่ พิซซา (Domino's Pizza) พุ่งขึ้น 5.85% หลังบริษัทเปิดเผยยอดขายรายไตรมาสที่สูงเกินคาด

นอกเหนือจากข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้แล้ว นักลงทุนยังจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของเฟดครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 19-20 มี.ค. โดยนายพาวเวลมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 6 มี.ค. และจากนั้นจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 7 มี.ค.

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สู่ระดับ 661,000 ยูนิตในเดือนม.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 680,000 ยูนิต และเมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนม.ค.