ตลาดหลักทรัพย์ ลุยโรดโชว์ เรียกความเชื่อมั่นลงทุน

24 ม.ค. 2567 | 17:27 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ม.ค. 2567 | 17:28 น.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินหน้ายกกระดับความเชื่อมั่นและเพิ่มศักยภาพการลงทุน เตรียมเดินสายโรดโชว์ต่างประเทศ ปักหมุดออสเตรเลียมี.ค. จับตา ประธานบอร์ดคนใหม่ หลัง “พิชัย ชุณหวชิร” ทีมเศรษฐกิจนายกฯ โผล่ชื่อกรรมการ

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้รับไฟเขียวจากคณะกรรมการ (บอร์ด) ตลท.ให้ดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 จากเดิมที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 31 พฤษภาคม 2565

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

หลังจากช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใต้การนำของนายภากร มีพัฒนาการที่โดดเด่น ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงสุดในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง มีจำนวนบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดจนมาอยู่ที่กว่า 5 ล้านบัญชีในปัจจุบัน

รวมถึงมีอุตสาหกรรมใหม่ๆ (new economy) เข้ามาระดมทุนเป็นจำนวนมาก และมีการพัฒนาสินค้าที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศที่หลากหลายมากขึ้น ในขณะเดียวกันตลาดทุนไทยและบริษัทจดทะเบียนไทยต่างก็ได้รับการยอมรับในระดับสากลถึงพัฒนาการด้านความยั่งยืน (Sustainability)

ผ่านไปแค่ปีกว่าๆ ของการดำรงตำแหน่งวาระที่ 2  ดูเหมือนเส้นทางที่โรยด้วยดอกกุหลาบของนายภากรเริ่มจะไม่ราบรื่นเสียแล้ว หลังเกิดเหตุการณ์หลายๆ ครั้งในตลาดหุ้นไทย ไม่ว่าจะเป็นกรณีหุ้น MORE ของบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) ช่วงปลายปี 2565 ตามด้วยปี 2566 ที่เกิดเหตุสะเทือนตลาดหุ้นของบริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK

ที่ครึกโครมและตกเป็นเป้าอย่างหนัก หลังดัชนีตลาดหุ้นไทย ร่วงลงอย่างหนักติดลบลงไปอยู่ในระดับเดียวกันกับเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยมีการพุ่งเป้าไปว่าเกิดจากการทำ Naked Short Selling ของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงการซื้อขายหุ้นผ่าน Program Trading

ดัชนีตลาดหุ้นไทย ที่ไหลรูดลงทุกวัน ทำให้มีกระแสความไม่พอใจของรัฐบาลต่อการทำงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเฉพาะสัญญาณการปรับบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ด้วยการส่ง “พิชัย ชุณหวชิร” สายตรงรัฐบาล มานั่งเป็นบอร์ดคนใหม่ และยังเป็นตัวเต็งประธานบอร์ดคนใหม่แทน “ดร. ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ” ที่จะครบวาระในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ จึงเป็นที่จับตาต่อเก้าอี้ของ กรรมการและผู้จัดการ ตลท.

นายภากร เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ต้องรอดูก่อนว่า  กรรมการที่ได้รับแต่งตั้งมาว่า จะดำเนินการอย่างไร ต้องการให้ตลาดทุนทำอะไรที่เป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ซึ่งดัชนีตลาดหุ้นไทย เป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจ คงไม่มีใครสามารถที่จะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นขึ้นหรือลงได้

สำหรับการเดินสายไปแนะนำข้อมูล (โรดโชว์) เพื่อดึงดูดและสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ นายภากรกล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ได้เตรียมการมาตั้งแต่ปีที่แล้วและปีนี้เอง เดิมทีจะมีการไปโรดโชว์ที่ปักกิ่งในเดือนมกราคมนี้ และในเดือนมีนาคมจะไปโรดโชว์ที่ออสเตรเลีย โดยได้เตรียมพร้อมในการพบกับนักลงทุนต่างชาติ ทั้งที่เป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือและผู้จัดการกองทุน  

นายภากรกล่าวในการแถลงแผนการดำเนินงานปี 2567 ว่า ปีนี้จะเป็นปีของการยกระดับความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย ทั้งการแจ้งข้อมูลกับนักลงทุนให้ทันต่อสถานการณ์และยกระดับการดูแลตลาดหุ้น ซึ่งตลท.และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกันศึกษาว่า จะทำอย่างไรให้ข้อมูลการกระทำความผิดเกี่ยวกับการสร้างราคาหุ้นออกมาได้เร็วขึ้น คาดว่า ผลการศึกษาจะออกมาในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้

แผนกลยุทธ์ ตลาดหลักทรัพย์ ปี 2567-2568

ดังนั้น การให้ข้อมูลกับนักลงทุนมากขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้ เป็นสิ่งที่ตลท.ให้ความสำคัญ ซึ่งในปีนี้จะมีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของตลาดทุน ตลท.ได้พัฒนาระบบ Financial data health check เพื่อติดตามคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน เช่น ข้อมูลงบการเงิน ผลประกอบการ 

“ยกตัวอย่างเคส STARK เราเห็นตัวเลขตั้งแต่ไตรมาส 3 แต่ยังไม่มีใครพูดถึง ซึ่งพบการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เราอยากให้นักลงทุนและนักวิเคราะห์พิจารณา จึงมีการสั่งให้ชี้แจงเพิ่มเติม เราดู backwards ดูอัตราส่วนการเงิน เพื่อดูว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เฝ้าติดตามดูแลใกล้ชิด ในอนาคตจะพัฒนาแพลตฟอร์ม health check เพื่อให้นักลงทุนไปใช้” นายภากร กล่าว

นอกจากนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังได้หารือกับก.ล.ต. ในการนำระบบออคชัน และ Auto Halt เข้ามาใช้ตลาดหุ้นไทย เนื่องจากปี 2566 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปรับเปลี่ยนระบบการซื้อขายใหม่ และมีฟังก์ชันที่ช่วยเหลือนักลงทุนได้หลากหลาย เราอยู่ระหว่างศึกษา และคุยกับอุตสาหกรรม และเสนอ ก.ล.ต.อีกที ส่วนจะเมื่อไหร่นั้น อยู่ระหว่างพิจารณา

ส่วนประเด็นการตรวจสอบการทำธุรกรรม Naked Short ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ที่ร้องเรียนเข้ามาให้ตลาดหลักทรัพย์ตรวจสอบ ซึ่งเราได้ทำการตรวจสอบแล้วยังไม่พบถึงกรณีไหนที่ผิดปกติ ซึ่งในหากมีผู้สงสัย หรือมีข้อมูล สามารถติดต่อมายังตลาดหลักทรัพย์ได้ทันที

 “ตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าจ้าง โอลิเวอร์ ไวแมน ที่ปรึกษาจากต่างประเทศเข้ามาร่วมศึกษา หาช่องโหว่งในตลาดหุ้นไทย ซึ่งที่ผ่านมาเราพบประเด็นที่น่าสนใจหลายอย่าง เพื่อป้องกันปัญหา Naked Short ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต และส่งเสริมโปรแกรมเทรดดิ้งให้เหมาะสม โดยคาดว่าจะได้ในสัปดาห์แรกของเดือน ก.พ.นี้ โดยกระบวนการหลังจากนั้นเราจะเปิดรับฟังความคิดเห็น รวมถึงเสนอแผนการปรับปรุงตลาดหุ้นไทย ทั้งระยะสั้นและระยะยาว” นายภากร กล่าวทิ้งท้าย

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 43 ฉบับที่ 3,960 วันที่ 25 - 27 มกราคม พ.ศ. 2567