SCL เคาะราคา IPO 1.54 บาท เปิดขาย 25-27 ต.ค.นี้ จ่อเข้าเทรด mai

20 ต.ค. 2566 | 11:41 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ต.ค. 2566 | 11:41 น.

เอส.ซี.แอล. มอเตอร์ พาร์ท “SCL” เสนอขายหุ้น IPO เคาะราคาที่ 1.54 บาท ระยะเวลาเสนอขายหุ้น วันที่ 25-27 ต.ค. 2566 คาดเตรียมเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 1 พ.ย. 2566

บริษัท เอส.ซี.แอล. มอเตอร์ พาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SCL เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) จำนวน 70,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.54 บาท มูลค่าเสนอขาย 107,800,000 บาท  ระยะเวลาเสนอขายหุ้น วันที่ 25-27 ตุลาคม 2566 

โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ทั้งนี้คาดจะเข้า ตลาดหลักทรัพย์ mai ในหมวดสินค้าอุตสาหกรรม (INDUS) ในวันที่ 1 พ.ย.66

ทั้งนี้มูลค่าตามราคาบัญชี (Book Value) ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2566 เท่ากับ 1.13 บาทต่อหุ้น โดยคำนวณจากมูลค่าส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 ซึ่งเท่ากับ 203.82 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญปัจจุบันก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 180 ล้านหุ้น

สำหรับการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัท ในครั้งนี้ พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) ทั้งนี้ ราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 1.54 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 13.54 เท่า 

โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัท ในรอบ 4 ไตรมาสที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 28.62 ล้านบาท เมื่อหารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท

ทั้งนี้ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้เท่ากับจำนวน 250 ล้านหุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.11 บาท และคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) เท่ากับ 13.54 เท่า โดยอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิดังกล่าวคำนวณจากผลประกอบการในอดีต 4 ไตรมาสย้อนหลัง โดยที่ยังมิได้พิจารณาถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

อย่างไรก็ตามการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม จำนวน 50 ล้านบาท ภายในปี 2566 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อใช้ในการดำเนินงานของบริษัท จำนวน 46.22 ล้านบาท ภายในไตรมาส 2 ปี 2567

สำหรับ SCL ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ของอีซูซุ (ISUZU) อย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2512 และปัจจุบันบริษัท เป็นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร 

ครอบคลุมผลิตภัณฑ์อะไหล่มากกว่า 167,000 รายการ ทั้งผลิตภัณฑ์อะไหล่รถยนต์ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์ต่างๆ เช่น ISUZU, MITSUBISHI, TOYOTA, HONDA, FUSO, FORD, NISSAN และ CHEVROLET 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่ทดแทนที่ได้มาตรฐานของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ เช่น AISIN, KAYABA, EXEDY, DENSO และ TOKICO