ชำแหละงบ"JKN" หนี้สิน-ลูกหนี้การค้า ชนวนเสี่ยงผิดนัดเพิ่ม

04 ก.ย. 2566 | 16:15 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ย. 2566 | 08:05 น.
1.7 k

เปิดชนวนวิกฤติสภาพคล่อง JKN หนี้สินกว่า 5 พันล้าน ผงะจากหุ้นกู้กว่า 83% จับตาหนี้การค้า 2.3 พันล้าน หลัง 7 เดือนแรกเรียกเก็บได้เพียง 335 ล้านบาท แผนกู้เงินแบงก์ใช้หนี้คืน

มูลค่าหุ้นหลักทรัพย์"บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN )" ฮวบลงทันทีในเวลาเพียง 2 วันเหลือ 1,217.41 ล้านบาท ณ วันที่ 1 ก.ย. 66 จากมูลค่า 2,455.45 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ส.ค.66  ตามราคาหุ้น JKN ที่ดิ่งลงกว่า 50.42% จากระดับราคา 2.38 บาท มาอยู่ที่ 1.18 บาท

หลังบริษัทฯ แจ้งผิดนัดชำระหนี้ หุ้นกู้รุ่น" JKN239A" วงเงินรวม (เงินต้นบวกดอกเบี้ย) 609.98 ล้านบาท โดยจะขอจ่ายบางส่วน 158.03 ล้านบาท คงเหลือหนี้ยอดคงค้าง 451.95 ล้านบาท และเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 27 ก.ย.นี้ เพื่อขอผ่อนผันหนี้ และยังมีโอกาสที่การผิดนัดหุ้นกู้ในรุ่น "JKN239A" จะกลายเป็นไฟลามทุ่ง กระทบไปยังหุ้นกู้ชุดอื่นรวม 7 รุ่น ที่มีหนี้เงินต้นคงค้าง 3,360.2 ล้านบาท มีต้นทุนดอกเบี้ยเฉลี่ย 7.00% ต่อปี  จำนวนนี้ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566-2567 ถึง 5 รุ่น มูลหนี้ 2,678.6 ล้านบาท

 

ชำแหละงบ\"JKN\" หนี้สิน-ลูกหนี้การค้า ชนวนเสี่ยงผิดนัดเพิ่ม

เพราะหากจะระดมทุนโดยออกหุ้นกู้ล็อตใหม่เพื่อ Rollover หุ้นกู้ชุดเดิมก็ทำได้ยากขึ้น หรือขายไม่ได้ตามจำนวนที่ต้องการ เห็นได้จากกรณีหุ้นกู้ "รุ่น JKN255A" ดอกเบี้ย 7.25% ต่อปี ที่เพิ่งปิดการขายเมื่อวันที่ 10 ส.ค.66 ขายได้เพียง 156 ล้านบาท จากจำนวนที่ต้องการขาย 200 ล้านบาท  และเดือนก.ย.นี้ (18-20 ก.ย.66) บริษัทฯเตรียมเสนอขายล็อตใหม่อีก 200 ล้านบาท (สำรองขายเพิ่มอีก 100 ล้านบาท รวม 300 ล้านบาท ) เป็นหุ้นกู้ไม่เรตติ้ง อายุหุ้นกู้ 1.9 ปี ดอกเบี้ย 7.25% ต่อปี  เสนอขายให้กับผู้ลงทุนรายใหญ่ (PP-HNW) ที่เป็นผู้ถือหุ้นกู้ JKN239A  ซึ่งต้องลุ้นว่าผลจะเป็นอย่างไร

ชำแหละหนี้ 5 พันล้าน จากหุ้นกู้ถึง 84% 

ทั้งนี้หากวิเคราะห์จากงบการเงินของ JKN  งวด 6 เดือนแรก (ณ 30 มิ.ย.66 ) แม้บริษัทจะทำรายได้ถึง 1,500 ล้านบาท (โต 51%)  กำไรสุทธิ 81.09 ล้านบาท (โต 32%) โดยมีสินทรัพย์รวม 12,161 ล้านบาท หนี้สินรวม 7,399 ล้านบาท โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 4,763 ล้านบาท สะท้อนสถานะการเงินแกร่งในระดับหนึ่ง  

แต่จากไส้ในจะพบว่า บริษัทมี"หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่าย" อยู่ที่ 5,027 ล้านบาท แต่มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพียง 112.50 ล้านบาท (ดูตารางประกอบ) จึงมีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถชำระหนี้ระยะสั้นที่จะถึงกำหนดได้

อีกทั้งแหล่งเงินที่ใช้รองรับการขยายธุรกิจ  พบว่าที่ผ่านมาเป็นการพึ่งพิงการระดมทุนโดยการออก"หุ้นกู้" เป็นหลักและเป็นหุ้นกู้ระยะสั้นอายุ 1.75-2.75 ปี  โดยจากโครงสร้างมูลหนี้คงค้าง 5,027 ล้านบาทดังกล่าว พบว่าเป็นมูลหนี้จากการออก

  • หุ้นกู้และหุ้นกู้แปลงสภาพถึง 4,200 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 83.57%
  • กู้ยืมจากสถาบันการเงิน 809 ล้านบาท สัดส่วน 16% และ
  • อื่น ๆอีก 16.75 ล้านบาท หรือราว 0.33%  

ดังนั้นหากการรับรู้รายได้ของบริษัทไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์หรือล่าช้าจากแผนงานที่วางไว้ ย่อมส่งผลกระทบต่อสามารถในการชำระหนี้ 

หวั่นลูกหนี้การค้า ซ้ำเติมสภาพคล่อง ?

แม้ปัจจุบันบริษัทฯ จะมีเงินทุนหมุนเวียนที่เข้าบริษัททุกเดือน จากการจัดเก็บจาก"ลูกหนี้การค้า"  ข้อมูลจากงบการเงิน งวด 6 เดือนแรกปี 66 บริษัทยอดลูกหนี้การค้าคงค้างมีประมาณ 2,291 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% จากสิ้นปี 2565 ที่มีประมาณ 1,559 ล้านบาท  โดยยอดหนี้การค้า 2,291 ล้านบาท ดังกล่าว มีจำนวนมากกว่ายอดรายได้ค่าสิทธิที่เป็นรายได้หลักของบริษัทที่มีประมาณ 1,137 ล้านบาท และข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค.66 บริษัทสามารถเก็บเงินได้บางส่วนจากลูกค้ากลุ่มนี้ได้ราว 335 ล้านบาท 

แต่ที่น่าห่วงคือลูกหนี้การค้าที่ค้างชำระนานกว่า 3 เดือนขึ้นไปราว 898 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2565 ประมาณ 54% ขณะที่ลูกหนี้การค้าที่ค้างชำระนานกว่า 1 ปีขึ้นไป มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 102% หรือเพิ่มขึ้นจากระดับ 99 ล้านบาท ในปี 2565 มาเป็น 200 ล้านบาทปัจจุบัน  ขณะที่บริษัทฯตั้งสำรองหนี้เสียส่วนนี้แล้วประมาณ  66.4 ล้านบาท

หาแหล่งเงินกู้แบงก์ ต่อลม

แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่และ CEO ของ “JKN” เปิดเผยถึงแผนการหาสภาพคล่อง อยู่ระหว่างเจรจา เพื่อยื่นขอเงินกู้จาก ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศ (Exim Bank) วงเงินเป็นพันล้านบาท ส่วนผู้ถือหุ้นกู้ วอนขออนุมัติขยายเวลาชำระหนี้  มั่นใจคืนเงินให้หมดพร้อมดอกเบี้ย 

"บริษัทฯมีแนวทางการแก้ปัญหาการเลื่อนวันชำระหุ้นกู้ไว้แล้วและจะประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 กันยายนนี้  จึงขอให้ผู้ถือหุ้น ทุกท่านมั่นใจได้ว่าผลประกอบการ JKN จะเติบโตได้ดี โดยในไตรมาส 4 จะรับรู้รายได้จากการประกวดมิส ยูนิเวิร์ส กว่า 400 ล้านบาท โดยได้รับเงินมัดจำบางส่วนแล้ว และจะช่วยหนุนรายได้จากธุรกิจหลัก การจำหน่ายคอนเท้นท์ได้เป็นอย่างดี "