TTB ขึ้นดอกเบี้ยฝากประจำสูงสุด 0.50% พร้อมตรึงดอกเบี้ยเงินกู้

07 ส.ค. 2566 | 14:01 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ส.ค. 2566 | 14:01 น.

ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (TTB) นำร่องขึ้นอัตราดอกเบี้ยฝากประจำสูงสุด 0.50% ต่อปี มีผล 10 ส.ค. พร้อมตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ รอประเมินสถานการณ์

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (TTB) เปิดเผยว่า จากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 2 ส.ค.66 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 2.00% ต่อปี เป็น 2.25% ต่อปีนั้น TTB ได้มีการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำสูงสุดถึง 0.50% ซึ่งสูงกว่าการปรับขึ้นของ กนง. โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค. 66

ขณะที่การปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นั้น ธนาคารฯ ยังอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ตลาด

 

สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ เป็นดังนี้
          
ลูกค้าบุคคล :
        

  • บัญชีเงินฝากประจำพิเศษ ทีทีบี อัพ แอนด์ อัพ 24 เดือน ที่ให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทุก ๆ 6 เดือน และลูกค้าได้รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยขั้นสูงสุดเพิ่มขึ้น 0.50% เป็น 3.50% ต่อปี ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเงินฝากที่มุ่งเน้นการออมในบัญชีดอกเบี้ยสูงแต่ยังต้องการสภาพคล่อง  เพราะถอนได้ก่อนกำหนด ไม่ถูกลดดอกเบี้ย เริ่มฝากขั้นต่ำได้ที่ 5,000 บาท
  • บัญชีเงินฝากประจำรูปแบบพิเศษ ทีทีบี ดอกเบี้ยด่วน ประเภท 12 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.50% เป็น 1.80% ต่อปี  โดยลูกค้าสามารถรับดอกเบี้ยไปใช้หลังการฝากเงินเพียง 7 วัน โดยเปิดบัญชีครั้งแรกขั้นต่ำ 10,000 บาท
  • บัญชีเงินฝากประจำประเภท 3 เดือน, 6 เดือน และ 12 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 1.05%, 1.15% และ1.55% ตามลำดับ

ลูกค้านิติบุคคล :

บัญชี ทีทีบี เงินฝากประจำประเภท 24 เดือน

  • สำหรับกลุ่มลูกค้านิติบุคคลทั่วไป ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.20% เป็น 1.60% ต่อปี
  • สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นสถาบันการเงิน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.20% เป็น 1.30% ต่อปี

บัญชีเงินฝากประจำ ทีทีบี อัพ แอนด์ อัพ

  • ปรับอัตราดอกเบี้ยช่วงเดือนที่ 1-6 จาก 1.00% เป็น 1.10% โดยมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 1.80% ในช่วงเดือนที่ 19-24

“ธนาคารให้ความสำคัญในเรื่องการส่งเสริมการออมเพื่ออนาคตและมีเงินสำรองยามฉุกเฉิน การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี จะช่วยให้ลูกค้าเงินออมได้รับประโยชน์สูงสุดจากสถานการณ์ดอกเบี้ยขาขึ้น และเพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น” นายปิติ กล่าวสรุป