DITTO คว้าบิ๊กโปรเจกต์ ธ.ก.ส. เกือบ 200 ล้าน พัฒนาระบบจัดการคุณภาพหนี้
DITTO คว้าบิ๊กโปรเจกต์ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการพัฒนาระบบงานรองรับการบริหารจัดการคุณภาพหนี้ มูลค่าโครงการกว่า 198.5 ล้านบาท วางระบบซอฟต์แวร์ ติดตามพฤติกรรมการผิดนัดชำระหนี้ลูกค้า
นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ "DITTO" เปิดเผยว่า บริษัท DITTO ได้รับสัญญาจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบงานรองรับการบริหารจัดการคุณภาพหนี้ มูลค่าโครงการ 198.5 ล้านบาท ผ่านระบบซอฟต์แวร์ ที่จะช่วยให้ ธ.ก.ส. สามารถนำข้อมูลพฤติกรรมการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้ามาจัดกลุ่มความเสี่ยง
เพื่อกำหนดกลยุทธ์การจัดการลูกหนี้ได้อย่างเหมาะสม และช่วยให้ธนาคารมีเครื่องมือคำนวณสัญญาณเตือนความเสี่ยงด้านเครดิตที่สามารถแสดงผลในเชิงพฤติกรรม และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ รวมทั้งการวิเคราะห์หามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ให้กับลูกหนี้ของธนาคารได้
โครงการพัฒนาระบบงานรองรับการบริหารจัดการคุณภาพหนี้ ประกอบด้วย
- ระบบวิเคราะห์หนี้ เพื่อตรวจสอบและแยกหนี้ดีและหนี้เสียออกจากกัน
- ระบบติดตามและการแจ้งเตือน เพื่อใช้ในการติดตามและเร่งรัดหนี้ของทางธนาคาร
- ระบบปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการหนี้ ทั้งในการเร่งรัดหนี้ หรือ การผ่อนชำระของลูกหนี้ ให้มีประสิทธิภาพ
- ระบบกฎหมาย เพื่อให้การดำเนินการทางกฎหมายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ระบบยังช่วยให้ธนาคารในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้หลายรูปแบบตามศักยภาพในการชำหนี้ของลูกหนี้ และทำให้ธนาคารมีระบบรองรับการบริหารจัดการหนี้ที่มีมาตรฐาน
และสามารถเก็บข้อมูลการปฏิบัติงานของการติดตามหนี้ เพื่อประเมิน KPI ของทีมติดตามหนี้ หรือสนับสนุนกลยุทธ์การติดตามหนี้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดกับธนาคาร โดยสามารถลดหนี้เสีย และลดต้นทุนการติดตามหนี้
"โปรเจกต์นี้เป็นโปรเจกต์ใหญ่ของ ธ.ก.ส.ซึ่งถือเป็นการยกเครื่ององค์กรให้ทันสมัยและยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งเพื่อให้การบริหารจัดการลูกค้าที่ผิดนัดชำระหนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการเกิดหนี้เสียซึ่งมีผลต่อต้นทุนโดยตรงและต้นทุนด้านความเสี่ยงของธนาคาร และยังสามารถใช้ทรัพยากร และบุคคลากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าอีกด้วย" นายฐกร กล่าว
สำหรับส่วนงานบริหารจัดการเอกสารซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ DITTO นั้น หลังจากที่มี พ.ร.บ. การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ บังคับใช้ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี
โดยในปัจจุบันนอกจากงาน ธ.ก.ส. แล้ว ยังมีงานของศาลยุติธรรม ที่ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง และงานของกรมที่ดิน โครงการจ้างนำเข้าข้อมูลที่ดิน เพื่อจดทะเบียนออนไลน์ที่ดำเนินการต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งจะเริ่มประมูลในเฟสใหม่ในปลายปีนี้
อย่างไรก็ตามคาดว่าหลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เรียบร้อยแล้ว รัฐบาลคงจะเร่งผลักดันนโยบายดิจิทัลมาใช้ในหน่วยงานภาครัฐมากขึ้น