TBN แจ้งกรรมการ 2 คนลาออกเป็นตัวแทนจาก BTS ไม่กระทบการบริหารงาน
TBN แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ กรรมการ 2 ท่าน ซึ่งเป็นตัวแทนจาก BTS ลาออก มีผล 19 มิ.ย. 66 หลังสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทลดลง ยันไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและโครงสร้างการบริหารงานของบริษัทฯ
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.66 นายปนายุ ศิริกระจ่างศรี กรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TBN แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า นายสยาม สีวราภรณ์สกุล และนายวิสุทธิ์ อุดมปิติทรัพย์ ได้มีหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง กรรมการบริษัท และกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท โดยมีผลตั้งแต่ วันที่ 19 มิ.ย.2566 เป็นต้นไป
สำหรับ นายสยาม สีวราภรณ์สกุล และนายวิสุทธิ์ อุดมปิติทรัพย์ เป็นตัวแทนจากบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS โดยจากข้อมูลแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟสิ่ง) ที่ TBN ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า
เนื่องจากวันแรกของการซื้อขายหุ้น TBN ทาง Rocket Holdings (HK) Limited มีความประสงค์จะนำหุ้นสามัญสัดส่วน ร้อยละ 8.75 ของทุนจดทะเบียนหลัง IP0 เสนอขายต่อนักลงทุน จำนวน 6 ราย ได้แก่
1) นายธนัช จุวิวัฒน์ 2) นายสมชาย เลิศขจรกิตติ 3)นายวัฒน์ บูรพพัฒพงศ์ 4)นายสมพงษ์ แซ่ลิ้ม 5) นายประสบสันต์ ชตพฤกธิ์ และ 6) นางวิลาวัลย์ใจดีจริง
ดังนั้นสัดส่วนการถือหุ้นของ Rocket Holdings (HK) Limited จึงลดลง และกรรมการที่เป็นตัวแทนจากบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 2 ท่าน จะลดลงเหลือ 1 ท่าน
อย่างไรก็ตาม การลาออกของกรรมการทั้ง 2 ท่าน บริษัทฯ ได้สอบถาม บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิงส์ จำกัด (มหาชน) ถึงการสรรหากรรมการมาดำรงตำแหน่งที่ว่างลง 1 ตำแหน่ง โดย BTS แจ้งว่าเนื่องจากหลังการทำรายการ Big Lot ทำให้ Rocket Holdings (HK) Limited มีสัดส่วนการถือ
หุ้นในบริษัทฯ น้อยกว่าร้อยละ 10 จึงไม่มีความประสงค์จะส่งตัวแทนมาดำรงตำแหน่งดังกล่าว เพื่อความเป็นอิสระในการบริหารงานของบริษัทฯ
ทั้งนี้ การลาออกของกรรมการทั้ง 2 ท่านนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและโครงสร้างการบริหารงานของบริษัทฯ แต่อย่างใด ซึ่งหากบริษัทฯ มีความประสงค์จะสรรหากรรมการเข้ามาดำรงตำแหน่งในอนาคต คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทนจะเป็นผู้สรรหากรรมการที่เหมาะสมเข้ามาดำรงตำแหน่งที่ว่างลงดังกล่าว
อนึ่งหุ้น TBN เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 66 โดยปิดเทรดวันแรกราคาอยู่ระดับ 42.50 บาท เพิ่มขึ้น 25.50 บาท หรือพุ่ง 150.00% จากราคา IPO ที่ 17.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,635.32 ล้านบาท
วันที่ 20 มิ.ย.การซื้อขายในภาคเช้ายังมี “แรงเก็งกำไรสูง” ด้วย Turnover ratio ที่ 85% โดยราคาปิดภาคเช้าที่ 41.5 บาท เพิ่มขึ้น 144% จากราคา IPO ด้วยมูลค่าซื้อขายสูงเป็นอันดับหนึ่ง 3,591 ล้านบาท
จากนั้น ตลท. จึงแจ้งเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวัง พร้อมศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ "ซื้อ-ขาย"
ก่อนที่ราคาหุ้นในช่วงบ่ายปรับตัวลงฟลอร์ 30.59% ปิดที่ระดับ 29.50 บาท และร่วงต่อเนื่อง 29.49% ในวันที่ 21 มิ.ย. ปิดตลาดที่ 20.80 บาท