ก.ล.ต. เตรียมปรับเกณฑ์อัตราส่วนการลงทุน “กองทุน” เพิ่มความยืดหยุ่น

07 มิ.ย. 2566 | 11:00 น.
อัปเดตล่าสุด :07 มิ.ย. 2566 | 11:00 น.

สำนักงาน ก.ล.ต. เตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงอัตราส่วนการลงทุนของ "กองทุน" รวมทั้งยกเลิกข้อจำกัดการลงทุนในเงินฝาก เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการลงทุน

(7 มิ.ย. 66) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการ และร่างประกาศเกี่ยวกับการปรับปรุงอัตราส่วนการลงทุนของ "กองทุน" รวมทั้งยกเลิกข้อจำกัดการลงทุนในเงินฝาก

โดยยังต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์อัตราส่วนการลงทุนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการลงทุน และยกระดับหลักเกณฑ์ให้สอดคล้องสากล และประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ

สำหรับในปัจจุบันการจัดการลงทุนในกองทุนรวมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ต้องเป็นไปตามหลักการกระจายการลงทุน และดำรงอัตราส่วนการลงทุนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

ทั้งนี้ในกรณีที่ไม่สามารถดำรงอัตราส่วนได้อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ตามที่กฎหมายกำหนด (passive breach) ไม่ถือเป็นความผิด โดยบริษัทจัดการกองทุน (บริษัทจัดการ) จะต้องแก้ไขภายใน 90 วัน

เว้นแต่ใช้ดุลพินิจเป็นประการอื่นเพื่อรักษาประโยชน์ของผู้ถือหน่วย สำหรับกรณีอื่นนอกเหนือจาก passive breach จะถูกพิจารณาเป็นการกระทำของบริษัทจัดการ (active breach) และเข้าข่ายเป็นการกระทำผิด

ทั้งนี้ปัจจัยภายนอกที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทจัดการซึ่งตามกฎเกณฑ์ในต่างประเทศพิจารณาว่าเข้าลักษณะเป็น passive breach เช่น การไถ่ถอนหน่วยลงทุนของผู้ลงทุน การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของมูลค่าทรัพย์สินที่กองทุนมีการลงทุน

โดยทาง ก.ล.ต. ประชุมร่วม คณะกรรมการกำกับตลาดทุน และห็นควรเพิ่มเติมกรณีที่เข้าลักษณะเป็น passive breach ให้ครอบคลุมเหตุจำเป็นที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทจัดการซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของสากล

ขณะเดียวกันเห็นควรเพิ่มความรัดกุมในกรณีที่เกิด passive breach โดยให้บริษัทจัดการซึ่งใช้ดุลพินิจที่จะไม่แก้ไขภายใน 90 วัน ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ดูแลผลประโยชน์หรือคณะกรรมการ PVD แล้วแต่กรณี รวมทั้งต้องรายงานความคืบหน้าของการดำเนินการอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง จนกว่าจะแก้ไขได้

นอกจากนี้เห็นควรปรับปรุงหลักเกณฑ์อัตราส่วนการลงทุนที่คำนวณตามประเภททรัพย์สิน (product limit) ของกองทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ที่นิติบุคคลตามกฎหมายไทยเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย หรือคู่สัญญา

ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์อัตราส่วนการลงทุนทั่วไปเช่นเดียวกับทรัพย์สินอื่นเพื่อให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

พร้อมกันนี้เปิดรับฟังความคิดเห็น เรื่อง หลักการและร่างประกาศเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์อัตราส่วนการลงทุนของกองทุน ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ >คลิกที่นี่ จนถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2566