หุ้นไทย วันนี้ ( 18 พ.ค.) ดัชนีผันผวน การเมืองยังกดดันทิศทางลงทุน

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้ (18 พ.ค.2566) ดัชนี SET แกว่งตัว 1,515 - 1,535 จุด ภาวะตลาดได้ปัจจัยบวกจากความคืบหน้าการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ  ที่คาดว่าจะบรรลุข้อตกลงได้ภายในสัปดาห์นี้ซึ่งช่วยให้สหรัฐรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิ.ย. อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของพรรคก้าวไกลยังคงกดดันทิศทางการลงทุนและกระแส Fund flow ส่งผลให้ดัชนีผันผวน 

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ :

• PTTEP  TOP  BCP ราคาน้ำมันดิบรีบาวด์ขึ้น
• BBL KTB  TTB KBANK  SCB แนวโน้มกำไร 2Q23 ยังคงเติบโต
• BDMS BEM BTS INTUCH ADVANC กลุ่ม Defensive ช่วงดัชนีผันผวน

ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม

• (+) ดาวโจนส์บวกแรงคาดหวังเจรจาเพดานหนี้สหรัฐใกล้บรรลุข้อตกลง: ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 409 จุด (+1.24%) ปิดที่ระดับ 33,421 จุด รับข่าวประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เห็นพ้องกันว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงเพื่อเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันสัปดาห์นี้ซึ่งจะช่วยให้สหรัฐหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้และภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้
• (-) เงินเฟ้อยุโรปยังเพิ่มขึ้นกดดัน ECB เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย: ยูโรโซนรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7% จาก 6.9% ในเดือน มี.ค. นับเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ปัจจัยนี้เชื่อว่าจะยังกดดันให้ธนาคารกลางยุโรปเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมครั้งถัดไป 
• (+/-) วันนี้ติดตามการแถลง MOU ของ 6 พรรคร่วมรัฐบาล: เราคาดว่าการเปิดแถลง MOU ของพรรคร่วมรัฐบาลในวันนี้จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงทิศทางการเมืองของไทยในระยะถัดไป ซึ่งต้องจับตาในรายละเอียดของ MOU ว่าจะมีการระบุถึงการวางตำแหน่ง รมว. ในแต่ละกระทรวงหรือไม่ โดยเฉพาะกระทรวงที่พรรคก้าวไกลซึ่งเป็นแกนนำจะเข้าไปดูแลซึ่งจะมีผลต่อหุ้นในกลุ่มธุรกิจนั้น

ด้านบล.อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ดัชนี SET วันนี้ ลุ้นรีบาวด์ โดยมีปัจจัยหนุนจากคลายกังวลการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันอาทิตย์นี้ ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศ สถานการณ์ดีขึ้น

โดยวันนี้ติดตามการแถลงของพรรคฝ่ายร่วมรัฐบาล ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1530 จุด หากผ่านได้ เป็นบวกต่อ และมีแนวต้านถัดไปที่ 1545 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1510 และ 1500 จุด ตามลำดับ

กลยุทธ์ลงทุน

ช่วงสั้น (1 เดือน) มอง SET มีแนวโน้มฟื้นตัวหลังสิ้นสุดการเลือกตั้ง ส่วนระดับการฟื้นตัวจะขึ้นอยู่กับเสถียรภาพและสูตร
การจัดตั้งของรัฐบาลใหม่ อย่างไรก็ดีระยะถัดไป (หลัง 1 เดือน)มอง SET มีโอกาสผันผวนไปตามสถานการณ์จัดตั้งรัฐบาลใหม่ซึ่งคงต้องติดตามต่อไป โดยเฉพาะช่วงเดือน ก.ค. ซึ่งจะมีการเปิดประชุมสภาเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีไทย นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตามจากประเด็นเพดานหนี้ รวมทั้งฐานะการเงินของธนาคารขนาดกลางและเล็กของสหรัฐฯ กลยุทธ์จึงแนะนำให้ “Selective Buy”

หุ้นแนะนำ

MINT :  2Q66 คาดผลการดำเนินงานจะปรับตัวดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากโรงแรมในยุโรปจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ขณะที่ทั้งปี 2566 คาดกำไรปกติที่ 6.2 พันลบ. เติบโต 209%YoY 

BDMS : 2Q66 คาดก าไรปกติจะเติบโต YoY เนื่องจากพัฒนาการในตลาดต่างประเทศใหม่ๆ จะช่วยสนับสนุนให้กำไรเติบโตต่อเนื่อง แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ทั้งปี 2566 คาดกำไรปกติที่ 1.4 หมื่นลบ. เติบโต 12%YoY